Free Reading Thai Dating Book of Bangkok Matching

SHARE

Free Reading Thai Dating Book of Bangkok Matching

บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ให้อ่านฟรี หนังสือสอนหาคู่ที่พ่อแม่ไม่เคยสอน เขียนโดยคุณบี Founder/Dating Coach 

บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching

หาคู่ดีๆ ได้ง่ายๆ เพียงคนโสดหาคู่ รู้วิธี วันนี้ แม่สื่อบริษัทจัดหาคู่ชั้นนำในไทย Bangkok Matching มาบอกให้หมดแล้วค่ะ 

 

ไม่เข้าใจทำไมยังโสด??

ภาวะการโสดของคนไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะในเมืองกรุงของเรา ก็ตามธรรมดาของเมืองใหญ่ล่ะค่ะ ที่วันๆชีวิตจะยุ่งวุ่นวายไปกับงานและเรื่องต่างๆ ทำให้การให้ความสำคัญในการหาคู่กลายเป็นประเด็นรองๆไป งานต้องมาก่อนกันเสียมาก ประกอบไปกับ อันนี้ฝ่ายหญิงส่วนใหญ่บอกเรากันเยอะมากว่า ผู้ชายดีๆ ก็หายากเข้าไปทุกที ไอ้ที่ดีจริงๆ ก็มีคู่ตุนาหงันไปเสียแล้ว ที่เหลือยังมีแบ่งไปเป็น เกย์ ตุ๊ด สาวประเภท 2 3 4 กันอีก

แล้วยังมีผู้ชายอีกกลุ่มใหญ่ๆเลยนะคะ ที่โฟกัสเฉพาะการจีบแต่คนสวย คนน่ารัก เท่านั้น แบบหน้าตาธรรมดา แนวแค่เกณฑ์เฉลี่ย 5-6/10 นี่ ชายกลุ่มนี้ไม่เหลียวตาแล ก็อีกเยอะค่ะ จึงได้เกิดสโลแกน “ผู้ชายมีน้อย พึงใช้สอยอย่างประหยัด” ขึ้นมา ; )

นอกจากสภาพชีวิตที่แสนยุ่งเหยิง อีกประเด็นหนึ่งของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่บีพบเห็น คือ การไม่ยอมเปิดใจพัฒนาศักยภาพความสวย ความหล่อของตัวเอง ไหนจะยังต้องพัฒนาศักยภาพทางอารมณ์อีกล่ะ

มีค่ะ บีมีคนสวย คนหล่อที่ EQ ไม่ดี วีนปรี๊ดๆง่ายๆ จะพูดจาดี หล่อ สวยเฉพาะกาล (คือยามที่อารมณ์เธอดี หรือไม่ ก็ยามที่เจอคนที่ถูกใจ เอาใจยากจริ๊ง แม่คุณ พ่อคุณ มองแล้ว บางทีบีก็นึกว่า โอ้ มาย บุดดา He หรือ She หากจับพลัด จับผลูมีลูกขึ้นมา จะปั้นลูกออกมาดีได้อย่างไร สงสัยๆๆๆ –”)

ในหนังสือเล่มนี้ บีเลยจะพยายามครอบคลุมทุกอย่างที่มีผลในการหาคู่ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านทุกท่านให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ (บีแอบหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น หรือว่า จะโดนด่าทั้งปฐพีก็ไม่ทราบ หลังจากออกหนังสือเล่มนี้)


หากว่าท่านผู้อ่าน เห็นดี เห็นชอบ มีคำติชม เข้ามา บีจะเอามาพิมพ์แก้ไขนะคะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการหาคู่สำหรับหญิงโสดชายโฉด เอ๊ย โสดต่อไปค่ะ : )

 

สิ่งที่ผู้หญิงควรโฟกัสในแต่ละช่วงวัย

หญิงสาววัยมหาวิทยาลัย – วัยนี้ เป็นวัยที่พีคสุดๆของฝ่ายหญิงทุกคนค่ะ ไม่ว่าหนุ่มในมหาวิทยาลัย หรือนอกมหาวิทยาลัย ไม่ว่าอายุมากน้อยขนาดไหน ต่างก็เทใจให้หญิงวัยนี้ – เป็นเวลาทองของฝ่ายหญิงที่จะเลือกชายหนุ่มที่ดีที่สุดไว้กับตัว

สำหรับน้องๆวัยนี้ บีไม่ได้อยากจะให้ชีวิตมุ่งเน้นในการหาคู่เสียเป็นอันดับแรกนะคะ แต่บีก็ไม่อยากให้น้องๆปล่อยปละละเลยโอกาสที่จะได้เจอชายหนุ่มดีๆค่ะ เนื่องจาก การจะพบฝ่ายชายจำนวนมากๆมาให้เลือกเหมือนสมัยมหาวิทยาลัยนั้น จะไม่มีอีกแล้วค่ะ

ดังนั้น ตั้งใจเรียนเป็นประเด็นหลักน่ะของแน่ค่ะ แต่บีอยากจะให้อย่าลืมประเด็นเสริมสักนิด คือ ให้ความสนใจชายหนุ่มที่เข้ามาสนใจเราสักนิดนึงด้วย หรือหากไม่มีชายหนุ่มใดๆเข้ามาขายขนมจีบเราบ้างเลย ก็ให้เปิดโอกาสตัวเอง ไปทำกิจกรรมอื่นๆของมหาวิทยาลัยบ้างนะคะ

บีไม่ได้บอกว่า คู่รักมหาวิทยาลัยจะจบลงด้วยการแต่งงานเสมอไป แต่บีกำลังจะบอกว่า ชีวิตมหาวิทยาลัยเป็นวัยเดียวจริงๆค่ะ ที่เราจะได้เจอะเจอเพศตรงข้ามมากมายขนาดนั้น โดยที่แต่ละคนยังมีจิตใจที่บริสุทธิ์ในการเลือกคู่กันมากๆ

วัยนี้ ยังมีฝ่ายชายในมหาวิทยาลัยจำนวนมาก ที่ไม่ได้เลือกคบฝ่ายหญิงที่มีหน้าตาที่สวยงาม รูปร่างที่ดีแต่เพียงอย่างเดียว ฝ่ายชายยังเลือกคบฝ่ายหญิงที่นิสัยที่น่ารักเป็นหลักอยู่มากๆค่ะ (ออกมาข้างนอกรั้วมหาวิทยาลัยแล้วจะรู้ค่ะว่า ชายหนุ่มที่เราจะเจอต่อจากนั้น มีเสือ สิงห์ กระทิง แรด แถม จระเข้ ปะปนอยู่ด้วยนะคะ แล้วหนุ่มๆเหล่านี้ มักจะเลือกฝ่ายหญิงจากหน้าตา รูปร่างเสียเยอะค่ะ)

ใครจะรู้ เราอาจจะเป็นหนึ่งในคู่รักมหาวิทยาลัยที่จบลงด้วยการแต่งงานก็ได้ค่ะ

แต่ในประเด็นนี้ บีก็แอบเป็นห่วงประเด็นการแต่งงานที่เร็วเกินไป หากวัยวุฒิ และสภาวะทางอารมณ์เรายังไม่เพียงพอที่จะเรียนรู้เรื่องการปรับตัวเข้าหากันในทุกๆเรื่องเพื่อช่วยกันประคับประคองความรักให้อยู่รอด

อย่างไรก็ตาม หากจะแต่งงานทันทีที่เรียนจบ บีอยากให้ใช้สติ และเหตุผลเยอะๆในการตัดสินใจนะคะ ว่าเราพร้อมหรือยัง

หญิงอายุ 22 – 27– วัยนี้ เป็นวัยที่พีคสุดๆอีกวัยหนึ่งของฝ่ายหญิงทุกคนค่ะ หนุ่มๆต่างๆที่พบเจอต่างก็ให้ความสนใจให้หญิงวัยนี้ – เป็นเวลาทองอีกช่วงหนึ่งของฝ่ายหญิงที่จะเลือกชายหนุ่มที่ดีที่สุดไว้กับตัว

ในวัย 22 นี้ บีคาดหมายว่า หญิงสาวคนนั้น ควรจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเรียบร้อยและพ้นออกจากรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว

หากว่าคุณอยู่ในวัยนี้ และยังไม่มีแฟนดูใจกัน แถมยังเป็นช่วงเพิ่งจะเริ่มชีวิตการงาน ไม่ว่าจะหางาน หรือ ปรับตัวให้เข้ากับงาน เพื่อนร่วมงาน หรือ กำลังต้องพิสูจน์ความสามารถให้นายเห็น แต่หากชีวิตคู่ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ ที่คุณก็ไม่อยากจะทิ้งความสุขส่วนตัวไป คุณก็จะต้องให้เวลาสักนิดกับเรื่องนี้ค่ะ

อยู่ที่ทำงาน หากมีใครน่าสนใจ หรือมีใครให้ความสนใจเรา หากนิสัยไม่เลวนัก ก็เก็บเขาไว้พิจารณาสักนิด ให้โอกาสเขาบ้าง แต่หากที่ทำงาน ไม่มีหนุ่มใดน่าสนใจเลย หลังเลิกงาน
หรือ วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือเสาร์ อาทิตย์ ก็หาโอกาสไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่คุณสนใจบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนปริญญาโทเพิ่มเติม การเริ่มใช้ชีวิตอื่นๆ เรียนภาษา เรียนการดีไซน์เวบไซด์ หรืออะไรก็ตามแต่ที่ช่วยเสริมทักษะงานเราไปด้วย อย่าได้มุ่งเน้น เอาแต่ทำงานและกลับบ้านเป็นเด็ดขาด

ในบทต่อๆไป บีจะแจกแจงถึงสถานที่ที่คุณควรจะเอาร่างคุณไป ; ) เพื่อเปิดโอกาสให้เจอคนใหม่ๆมากขึ้น ก็จะได้ทราบกันให้ละเอียดไปเลยในบทนั้นนะคะ

ในวัยนี้ บีแนะนำว่าการเลือกคนที่จะมาเป็นแฟนต้องถี่ถ้วนให้มากขึ้น เพราะเป็นวัยที่หาคู่เพื่อจุดเป้าหมายคือการแต่งงาน

หญิงอายุ 28 – 32– วัยนี้ เป็นวัยที่หากฝ่ายหญิงยังต้องการที่จะมีคู่ จะต้องยกเรื่องการหาคู่มาเป็นอันดับ 1 สำคัญที่สุดในลำดับอื่นๆในชีวิตทันที (หากสามารถ) เนื่องจากถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายของวัยทองในการที่จะเป็นผู้เลือกได้

วัยนี้ บีเข้าใจค่ะว่าฝ่ายหญิงอาจจะกำลังไต่เต้าไปได้สวยในหน้าที่การงาน อาจจะกำลังยุ่งสุดๆในชีวิตการทำงาน แต่บีเสียใจที่จะบอกว่า ช่วงอายุนี้ด้วยค่ะ ที่เป็นโค้งสุดท้ายในการหาคู่ที่คุณยังอยู่ในจุดที่ยังสามารถเลือกได้อยู่

ยกเว้นว่าคุณจะสวยเริ่ดแบบ คุณเจนนี่ โพธิ์สุวรรณ หรืออะไรทำนองนี้ หากคุณสวยเริ่ดดั่งว่าแล้ว ป้าย “HOT item” ก็จะติดตัวคุณได้ไปอีกจนถึงประมาณอายุ 35 ค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม คุณก็ยังอาจจะประสบปัญหาในหัวข้อเรื่องความสามารถในการมีบุตรได้ ซึ่งฝ่ายชายที่ยังไม่เคยแต่งงานมาก่อน มักจะต้องการมีบุตร ดังนั้น อาจจะทำให้คุณเสียโอกาสในตัวชายหนุ่มกลุ่มนี้ไป

ดังนั้น ในช่วงวัยนี้ คุณยิ่งจะต้องเปิดโอกาสตัวเองให้เยอะมากกว่าปกติอีกหลายเท่าเลยทีเดียว และควรจะต้องดูแลใส่ใจในรูปร่าง หน้าตา การแต่งกายของคุณให้ดูดีเสมอๆ

อย่าลืมนะคะว่า ไม่ได้มีเพียง ปลา (คือ คุณ) ตัวเดียวในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่นี้ (“There is plenty of fish in the sea.” ตามสำนวนฝรั่งเขา) ดังนั้น อย่าลืมว่า ในขณะเดียวกันกับที่คุณตามหารัก ยังมีปลาอีกมากมายอยู่ในสถานะเดียวกันนะคะ คู่แข่งขันเยอะค่ะ

หญิงอายุ 33 – 39 – วัยนี้ เป็นวัยที่ฝ่ายหญิงทุกคนที่ต้องการจะมีคู่ ยังจะต้องยกเรื่องการหาคู่มาเป็นอันดับ 1 สำคัญที่สุดในลำดับอื่นๆในชีวิตทันที (ไม่ว่าจะสามารถหรือไม่สามารถ คำตอบเดียวคือ CAN ค่ะ หากคุณยังอยากมีคู่)

วัยนี้ บีคาดหมายว่า หญิงส่วนใหญ่ชีวิตการงานลงตัวทุกอย่างดีหมดแล้ว ยกเว้นเรื่องคู่เท่านั้น

ในวงการการหาคู่ หากคุณหน้าตาอยู่ในเกณฑ์ธรรมดาตามเกณฑ์เฉลี่ยคนทั่วไป ในวัยนี้ หากคุณไม่เปิดกว้างเจอคนที่อายุมากกว่าตนเองอย่างน้อยสัก 5 – 12 ปีขึ้นไป และตัดเงื่อนไขอะไรต่ออะไรที่ไม่สำคัญต่อการมีคู่ครองที่ดีออกเสีย การหาคู่จะเริ่มยากค่ะ ยกเว้นเสียแต่ว่า คุณจะโชคดีได้เจอฝ่ายชายที่โฟกัสที่นิสัยใจคออันแสนน่ารักแทน และฝ่ายชายไม่มองเรื่องประเด็นการมีบุตรเป็นเรื่องสำคัญ

แต่บีต้องขอบอกตรงๆค่ะว่า ฝ่ายชายที่บีพบเจอ 9 ใน 10 หากเขายังไม่เคยแต่งงานมาก่อน เขาต้องการมีบุตรกันทุกคนแหล่ะค่ะ ดังนั้น ฝ่ายชายกลุ่มนี้ เขาจะเลือกออกเดทกับคนวัยอายุไม่เกิน 32 กันเสียมาก

บีแนะนำ สำหรับกรณีที่คุณต้องการให้การหาคู่ของคุณประสบความสำเร็จง่ายขึ้นนะคะ บีอยากให้คุณเปิดใจเดทฝ่ายชายอายุ 34 – 48 เลยค่ะ และจะเพิ่มโอกาสให้คุณมากขึ้นอีกมาก หากคุณยินดีเดทกับคนที่เคยแต่งงานและหย่าแล้ว รวมถึงฝ่ายชายที่มีบุตรมาแล้วค่ะ เพราะความต้องการที่จะมีบุตรของเขาจะน้อยลงมากค่ะ หรืออาจจะไม่อยากมีบุตรเพิ่มอีกเลย ดังนั้น วัยของคุณก็จะไม่เป็นอุปสรรคอันใดในความสัมพันธ์นี้ค่ะ

ดังนั้น วัยนี้ คุณควรเปิดโอกาสตัวเองในการพบเจอคนใหม่ๆให้เยอะมากกว่าปกติอีกหลายๆๆๆเท่าเลยทีเดียวค่ะ

หญิงอายุ 40 – 45

เมื่อคุณได้เข้ามาสู่ช่วงวัยนี้ มันเป็นไปตามสถานะการณ์ Demand กับ Supply อุปสงค์ อุปทานในการหาคู่ในประเทศไทยล่ะค่ะ ว่าการหาคู่ของคุณจะยิ่งยากขึ้น ซึ่งสำหรับฝ่ายหญิง แย่หน่อยนะคะ ที่ว่าการหาคู่ของฝ่ายหญิงอิงกับอายุมากเหลือเกิน แต่หากฝ่ายหญิงในวัยพีค (peak) น้อยแบบนี้ เปิดโอกาสให้ตัวเองมากขึ้น โดยการขยายช่วงอายุฝ่ายชายที่ตัวเองจะเปิดใจคบหาให้มากขึ้น ตัดเงื่อนไขอะไรต่ออะไรที่ไม่สำคัญต่อการมีคู่ครองที่ดีออกเสีย ก็จะช่วยทดแทนกันได้บางส่วนค่ะ

บีแนะนำให้หญิงช่วงวัยนี้เปิดกว้าง ให้เปิดใจเดทฝ่ายชายอายุ 40 – 60 เลยค่ะ และก็เหมือนหญิงช่วงอายุ 34 – 39 แหล่ะค่ะ จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตัวคุณเองอีกมาก หากคุณยินดีเดทกับคนที่เคยแต่งงานและหย่าแล้ว รวมถึงฝ่ายชายที่มีบุตรมาแล้วค่ะ เพราะความต้องการที่จะมีบุตรของเขาจะน้อยลงมากค่ะ หรืออาจจะไม่อยากมีบุตรเพิ่มอีกเลย ดังนั้น วัยของคุณก็จะไม่เป็นอุปสรรคอันใดในความสัมพันธ์นี้ค่ะ

อีกนั่นแหล่ะค่ะ สำหรับวัยนี้ หากเป้าหมายชีวิต ไม่ได้ตั้งไว้ว่าจะอยู่คนเดียว คุณก็ต้องออกนอกบ้านมากขึ้น ไปทำกิจกรรม ไปร่วมงานปาร์ตี้ต่างๆนาๆ นะคะ

หญิงอายุ 45+

สำหรับช่วงวัยนี้ ก็คล้ายๆช่วงวัยก่อนหน้านี้นะคะ คือเปิดช่วงอายุฝ่ายชายให้กว้างขึ้น ตัดเงื่อนไขอะไรต่ออะไรที่ไม่สำคัญต่อการมีคู่ครองที่ดีออกเสีย เข้าร่วมทำกิจกรรมนอกบ้านมากๆ เปิดโอกาสให้ตัวเองเจอคนใหม่ๆ

บีแนะนำให้หญิงช่วงวัยนี้เปิดกว้างเดทฝ่ายชายช่วงอายุ 45 – 65 เลยค่ะ และสเปค หรือ requirement อะไรที่ไม่สำคัญ ตัดออกและลดๆ มันไปค่ะ

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ

 

ผู้หญิงวัยไหนที่ผู้ชายมองหา

จากการทำงานทุกวันของบี บีขอสรุปวัยของผู้หญิงที่ฝ่ายชายแต่ละวัยมองหาออกมาคร่าวๆ ดังนี้นะคะ

ชายอายุ 22 – 27

ชายอายุช่วงนี้ มักมองหาฝ่ายหญิงอายุเท่ากัน หรือ น้อยกว่าตัวเองสักนิดหน่อย

และประมาณ 50% เท่านั้นที่เปิดกว้างเจอคนที่อายุมากกว่าตัวเอง และหากเปิดกว้าง ก็มักจะเลือกเจอคนที่อายุมากกว่าตัวเองไม่เกิน 1-2 ปี เป็นอย่างมาก

ชายอายุ 28 – 32

ชายอายุช่วงนี้ มักมองหาฝ่ายหญิงอายุเท่ากัน หรือ น้อยกว่าตัวเองประมาณ 2 -7 ปี

และประมาณ 50% เท่านั้นที่เปิดกว้างเจอคนที่อายุมากกว่าตัวเอง และหากเปิดกว้าง ก็มักจะเลือกเจอคนที่อายุมากกว่าตัวเองไม่เกิน 1-2 ปี เป็นอย่างมาก

ชายอายุ 33 – 35

ชายอายุช่วงนี้ มักมองหาฝ่ายหญิงอายุน้อยกว่าตัวเองประมาณ 3-10 ปี และประมาณ 95% มักจะไม่เปิดเจอคนที่อายุมากกว่าตัวเอง แต่หากเปิดกว้าง ก็มักจะเลือกเจอคนที่อายุมากกว่าตัวเองไม่เกิน 1 ปี เป็นอย่างมาก

ชายอายุ 35 – 39

หากฝ่ายชายไม่เคยแต่งงาน ชายอายุช่วงนี้ มักมองหาฝ่ายหญิงอายุน้อยกว่าตัวเองมากที่สุด 4-14 ปี และ 98% มักจะไม่อยากเดทฝ่ายหญิงที่อายุเท่ากันหรือมากกว่าตนเอง

แต่หากฝ่ายชายเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ฝ่ายชายมักจะเปิดกว้างในการพบฝ่ายหญิงอายุน้อยกว่าตัวเองมากที่สุด 3-14 ปี และ 50% ของผู้ชายกลุ่มนี้ยังเปิดกว้างที่จะเดทฝ่ายหญิงที่อายุเท่ากันหรือมากกว่าตนเอง แต่มักจะไม่เกิน 2-3 ปี เป็นอย่างมาก

ชายอายุ 40 – 45

หากฝ่ายชายไม่เคยแต่งงาน ชายอายุช่วงนี้ มักมองหาฝ่ายหญิงอายุน้อยกว่าตัวเองมากที่สุด 5-20 ปี และ 98% มักจะไม่อยากเดทฝ่ายหญิงที่อายุเท่ากันหรือมากกว่าตนเอง

แต่หากฝ่ายชายเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ฝ่ายชายมักจะเปิดกว้างในการพบฝ่ายหญิงอายุน้อยกว่าตัวเองมากที่สุด 5-20 ปี และ 50% ของผู้ชายกลุ่มนี้ยังเปิดกว้างที่จะเดทฝ่ายหญิงที่อายุเท่ากันหรือมากกว่าตนเอง แต่มักจะไม่เกิน 2-3 ปี เป็นอย่างมาก

ชายอายุ 46+

หากฝ่ายชายไม่เคยแต่งงาน ชายอายุช่วงนี้ มักมองหาฝ่ายหญิงอายุน้อยกว่าตัวเองมากที่สุด 8-30 ปี (กรณี 30 ปีนี่ บีหมายถึงคนอายุ 60 ขึ้นไปหลายคน ที่ยังมองหาคนอายุ 30 ปีเท่านั้น) เนื่องจากบางคน ยังต้องการมีบุตรอยู่ (และก็มีบางคนที่อยากมีแฟนเด็กค่ะ)

แต่หากฝ่ายชายเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว 50% ของผู้ชายกลุ่มนี้ยังเปิดกว้างที่จะเดทฝ่ายหญิงที่อายุเท่ากันหรือมากกว่าตนเอง แต่มักจะไม่เกิน 2-3 ปี เป็นอย่างมาก

อีกสิ่งหนึ่งที่บีอยากทิ้งท้ายนะคะ จากจำนวนฝ่ายชาย 98 ใน 100 คนที่บีเคยสัมภาษณ์มา ไม่ว่าเขาจะอ้วนหรือผอม ไม่ว่าเขาจะหล่อมาก หรือหล่อน้อยมาก ไม่ว่าเขาจะมีเงินมาก หรือมีเงินน้อยหน่อย สเปครูปร่างหน้าตาฝ่ายหญิงที่เขามองหา คล้ายกันมากค่ะ

ซึ่งสเปคที่ฝ่ายชายต่างต้องการในการหาคู่ บีแบ่งออกมาเป็นข้อๆรวมๆได้ดังนี้ค่ะ

• หญิงสาวที่หน้าตาน่ารัก ถึงสวยมากกก
• ผิวขาว หมวย ยังเป็นเทรนด์ฮิต
• ผมยาว ยังได้รับการนิยมมากกว่าผมสั้น (8 ใน 10)
• รูปร่างดี ไม่อ้วน ไม่อวบ!!
• สูงหน่อย สัก 160 เซนติเมตรขึ้นไป แต่ส่วนสูงของสาวในฝันของชายหนุ่มคือ 165 เซนติเมตรขึ้นไปค่ะ

อันดับความสำคัญที่ฝ่ายชาย 10 ใน 10 ตั้งเกณฑ์ในการหาคู่ เป็นตามนี้ค่ะ

สำคัญอันดับ 1 หน้าตา
สำคัญอันดับ 2 รูปร่าง ส่วนสูง
สำคัญอันดับ 3 อายุ
สำคัญอันดับ 4 นิสัย

ขอแป่วววว นิดนึงนะคะ เห็นอย่างหนึ่งไหมคะว่า การศึกษาไม่อยู่ในอันดับการเลือกคู่ top 3 ของฝ่ายชาย ณ ที่นี้ หากจะให้บีใส่อันดับความสำคัญของการศึกษา มันคือ อันดับที่ 5 ค่ะ

ฝ่ายชายที่บีเคยสัมภาษณ์มาหลายท่านนี่ ขนาดเขารวยล้นฟ้า เขาจบนอกมาด้วยซ้ำ การศึกษาเขายังเอาไว้อันดับล่างสุดเลยค่ะ เขาบอกบีว่า ขอแค่ให้ฝ่ายหญิงไม่โง่นัก แต่ใฝ่รู้ เต็มใจเรียนรู้ พูดคุยรู้เรื่อง มีงานการดีๆทำที่ไม่จำเป็นต้องเริ่ดนัก แต่ขอหน้าตาดีมากเป็นหลัก รูปร่างดี นิสัยดีแล้ว การศึกษาไม่สำคัญค่ะ!!!

หรืออย่างปกติหน่อย ฝ่ายชายก็มักจะบอกว่า ก็เอาให้มันเหมาะสมกับเขาก็พอค่ะ เช่น หากเขาจบปริญญาโทเมืองนอก เขาก็จะแค่บอกบีว่า ฝ่ายหญิงจบปริญญาตรีก็โอเคแล้วครับ จบนอกเหมือนกันได้ก็ดี แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการหาคู่ของเขา

รายได้ ไม่อยู่ในประเด็นการหาคู่ของฝ่ายชายเลยค่ะ ฝ่ายชายมักจะบอกเพียงแค่ว่า ขอแค่มีการงานทำ ไม่หวังแต่จะมาเกาะเขากินก็พอ

แต่ฝ่ายหญิงน่ะสิคะ มักจะเลือกไปโม้ดดด การศึกษาก็ต้องเหมาะสมกับฉันนะ ฐานะด้วย เงินเดือนต้องหลักแสนขึ้นไป ส่วนสูงด้วย ห้ามอ้วนด้วยนะ จะได้เอาเข้ากลุ่มเพื่อนฝูงได้ไม่อายใคร หาได้รู้ไม่ค่ะ ว่าฝ่ายชายเขา focus กันคนละอย่าง ดังนั้น ถึงคุณผู้หญิงจะจบเริ่ดหรู สกุลสูง เงินเดือน 5 แสน แต่ไม่สวย ไม่น่ารักนี่ ก็หาคู่ไม่ง่ายนะคะ ยกเว้นว่า ฝ่ายชายจะหาคู่แต่งงานเพื่อสร้างฐานะนี่ ก็ว่าไปอย่างค่ะ (บีถึงได้บอกว่า เชื่อเถอะค่ะ อีกไม่นานเกินรอ เทรนด์ทำศัลยกรรมจากขี้เหร่ไปสวยนี่ จะมาแรงจริงๆค่ะ บ้านเราจะทำกันเป็นปกติแบบเกาหลีเลยล่ะ ดีไม่ดี ก่อนจะเก็บตังค์ซื้อรถ ซื้อบ้าน จะเป็นเก็บตังค์ทำหน้ากันก่อนค่ะ)

สรุปจากข้างบนคือ สำหรับการหาคู่ของฝ่ายชาย หากฝ่ายหญิงนิสัยดี แต่หน้าตาไม่ดี รูปร่างไม่ดี อายุเกินที่จะมีบุตรให้เขานี่ ฝ่ายชายขอผ่านนะคะ

บีถึงได้บอกว่า เป็นฝ่ายหญิงนี่ เสียเปรียบหลายปัจจัยค่ะ แต่หากเราไม่ต้องการใช้ชีวิตโสด นี่เป็นสิ่งที่คุณควรรู้ค่ะ “รู้เขา รู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง” ค่ะ : ) สิ่งที่บีบอกไป อาจจะบาดใจ แต่รู้ไว้ ดีกว่าไม่รู้ ถูกไหมคะ

 


ผู้หญิงแบบไหนที่ผู้ชายต่างมองหา

เอาล่ะค่ะ หลังจากทราบเรื่องช่วงอายุคร่าวๆที่ฝ่ายชายมักจะมองหากันในแต่ละช่วงวัยแล้ว เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าฝ่ายชายมักจะมองหาฝ่ายหญิงที่มีลักษณะหลักๆแบบไหน


รูปลักษณ

“A man falls in love through his eyes, a woman through her ears.” ที่ Woodrow Wyatt กล่าวไม่ผิดเพี้ยนเลยค่ะ

ฝ่ายชายทุกคนล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน มาจากประเทศไหน ทุกช่วงวัย ต่างมุ่งหวังมองหาคนสวย หน้าตาดี น่ารัก รูปร่างดี (หมายถึงไม่อ้วน ไม่ผอมโกรกเกินไป) มาเป็นแฟนกันทั้งนั้นเลยค่ะ และ บีบอกได้เลยว่า 98% ของฝ่ายชายเลือกหน้าตามาเป็นอันดับแรกในการหาคู่กันทั้งนั้นค่ะ อีก 2% ที่เหลือ เขาบอกว่า หน้าตาอาจจะไม่ใช่อันดับสำคัญที่สุด แต่บุคลิก การแต่งกาย และภาพลักษณ์โดยรวมมากกว่า ที่เขาคำนึงถึง

แต่ก็อีกนั่นแหล่ะค่ะ บีก็ยังเห็นเขาดูหน้าตากันเป็นหลักอยู่ดี ถึงรูปร่างจะดีมากๆๆๆ เซ็กซี่สุดๆ แต่หน้าตาแย่นี่ บีก็ไม่เคยเห็นฝ่ายชายเขาตอบรับเดทกันเสียเท่าไหร่นะคะ

ดังนั้น คุณผู้หญิงทั้งหลายคะ หากปัจจุบัน ถึงเราจะไม่สวยเด่นสะดุดตา แต่ของแบบนี้ มันสร้างกันได้นะคะ ดูคุณกาละแมตอนอ่านข่าวใหม่ๆสิคะ เทียบกับปัจจุบันนี้ คนละเรื่องเห็นๆกันอยู่ค่ะ : )
(อิอิ ขอโทษนะคะ คุณกาละแม ขออนุญาติอ้างอิงนิสนึงนะคะ : ))

หากเรารักษารูปร่าง น้ำหนักให้เหมาะสม ผิวพรรณให้สะอาดสะอ้าน หอมกรุ่น (ด้วยน้ำหอมรสนิยมดี) แต่งตัวให้ดูเหมาะสม มีสไตล์สำหรับตัวเรา แต่งหน้าให้ถูกต้องเหมาะสม ไฝฝ้ากระ สิว หากมีมากเกินไปจนเกินงาม ก็หาหมอผิวหนังดูแลสภาพหน้าเสีย

แต่หากต้นทุนทางหน้าตาของเรามันไม่ดีเสียเลยจริงๆ ทำให้การหาคู่เรายากมากๆแล้ว ในกรณีนี้ หากคุณมีเงินและไม่กลัวเจ็บ การทำศัลยกรรมก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าจะช่วยคุณได้นะคะ อย่างไรก็ตาม เรื่องการทำศัลยกรรมอาจจะไม่ใช่เรื่องเพียงแค่เล็กน้อยในสังคมไทยในปัจจุบัน ดังนั้น ปรึกษาคุณพ่อ คุณแม่ ญาติผู้ใหญ่และผู้เชี่ยวชาญให้รอบคอบก่อนนะคะ ว่าเหมาะสมกับคุณหรือไม่

อย่างที่ทราบๆ กันนะคะ ว่าการทำศัลยกรรมเพื่อหน้าตาสวยงามเป็นที่แพร่หลายมากๆในประเทศเกาหลี และบีว่า เทรนด์นี้สุดท้ายมันจะมาไทยแน่นอนค่ะ ไม่น่าจะเกินใน 4 ปีนี้ โดยจะแรงมากในกลุ่มวัยหนุ่มสาวที่ยังมองหาคู่กันอยู่ โลกมันเปลี่ยนไปค่ะ

การแต่งกาย

สิ่งที่บีอยากจะให้ focus เรื่องการแต่งกาย ก็คือ การแต่งกายให้เหมาะสมกับรูปร่าง และบุคลิกของเรา

หากรูปร่างของเรา ไม่ใช่รูปร่างที่ใส่อะไรก็สวย เราก็จะต้องรู้จักที่จะเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับรูปร่างของเรานะคะ ว่าควรจะพรางสิ่งใด เน้นสิ่งใดแทน เพื่อให้รูปร่างเราออกมาดู balance ดูดี

บีสัมภาษณ์ผู้ชายมามากมายค่ะ บอกได้เลยว่า ฝ่ายชายส่วนใหญ่ ก็มักจะบอกแค่ว่า เขาต้องการเดทฝ่ายหญิงที่แต่งกายดูดี

ซึ่งจากการพูดคุย บีก็ขยายความได้ว่า การแต่งกายดี คือ สะอาดสะอ้าน ดูดี ถูกกาละเทศะ ไม่ล้ำนำสมัย จนเดินด้วยแล้วรู้สึกอึดอัด และก็ไม่เชยจนรู้สึกขัดเขินที่จะไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่โป๊ ไม่แต่งตัวเชิญชวนจนทำให้เขาไขว้เขวว่า ยายผู้หญิงคนนี้จะเหมาะเป็นแม่ของลูกฉันหรือเปล่าหว่า (ผู้ชาย สุดท้ายเวลาเขาจะเลือกแต่งงานกับใครสักคน เขาจะมีคำถามนี้ขึ้นมาในหัวค่ะว่า ผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกของเขาหรือไม่)

สูตรการแต่งตัวที่เหมาะสมในการออกเดท ที่บีใช้ประจำๆ คือไม่ปกปิดมากไป และไม่เปิดเผยเกินไป นั่นคือ คุณอาจจะใส่เสื้อแขนกุด หรือสายเดี่ยวที่ไม่คว้านลึก โชว์แขนขาวนวลทั้งสองด้าน สำหรับท่อนล่าง จะแต่งอย่างไรก็ได้ แต่อย่างที่เปิดเผยมากสุด คือ โชว์ได้เฉพาะช่วงขาเหนือหัวเข่าได้สัก 4-5 นิ้ว ไม่มากกว่านั้น (จะเซ็กซี่ จะเปรี้ยวเข็ดฟัน ก็เก็บไว้ก่อนค่ะ ไว้เป็นแฟนกับเขาก่อน แล้วค่อยปล่อยความเปรี้ยวออกมาทีละน้อย ให้เขารักเราก่อนนะคะ แล้วทำอะไรทีนี้ เขาก็รับเราได้ค่ะ : ))

สำหรับเสื้อผ้าแบรนด์เนมอะไรนั่น ไม่สำคัญหรอกค่ะ ฝ่ายชายเขาไม่ได้สนใจเรื่องยี่ห้อเสื้อผ้า แต่ต้องเอาให้มันเหมาะสมกับฐานะ สถานะทางสังคมของคุณ (หากคุณสถานะสังคมสูง อันนี้ แบรนด์เนมก็อาจจะต้องมีไว้ใช้สอยบ้าง เผื่อออกงาน)

บีขออนุญาติแนะนำว่า เวลาเลือกซื้อเสื้อผ้า เน้นให้เหมาะกับสถานการณ์ งานหรือกลุ่มคนในงาน และให้เหมาะกับรูปร่าง หน้าตา และบุคลิกเราจะเป็นการดีที่สุดค่ะ

บีว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเข้าใจเลยว่า แต่งตัวอย่างไรให้เหมาะกับบุคลิก และตัวตนของตัวเอง เห็นแต่งกันตามๆกัน เป็นพิมพ์นิยมกันไปหมด โดยไม่ได้คำนึงถึงรูปร่างและหน้าตาของตนเอง บางที บีก็เข้าใจนะคะ ว่าสังคมออฟฟิศบ้านเรา สาวๆ ก็ shopping ตลาดนัดข้างออฟฟิศเหมือนกัน สูง ต่ำ ดำ ขาว อ้วน สูง เลยกลายเป็นมี choice เดียวกัน เลยพาลซื้อของใช้ ใส่เหมือนกันไปหมด ลืมพิจารณาดูความเหมาะสมกับวัย รูปร่าง และบุคลิกของเรา

บีอยากจะให้ฉุกคิดสักนิดค่ะว่าเราเหมาะกับการแต่งตัวแนวใด แบบไหน อย่าได้เพียงแต่ประโคมใส่เข้าไปตามกระแสนิยมตามเพื่อน นั่นล่ะค่ะ ความแตกต่างระหว่างคำว่า “แห่ตามแฟชั่น” กับคำว่า ”มีสไตล์” ทีนี้ เวลาซื้อเสื้อผ้า สิ่งของ เครื่องประดับ คิดก่อนนะคะ ว่าอันนี้ ฉันกำลัง ตามแฟชั่น หรือว่า ฉันแต่งเสริมสไตล์ฉัน

สีเสื้อผ้าที่เลือกใส่กัน ก็มักจะเป็นสีปลอดภัยกันทั้งนั้น คือแนวทึมๆ ดำ ขาว เทา ชมพูอ่อน ฟ้าอ่อน อะไรแนวนี้ บีอยากให้เปิดใจ ลองใส่เสื้อผ้าหลากสีขึ้น สีสดขึ้น เช่น เหลืองสด เขียวสด แดงสด ส้มอะไรแนวนี้ค่ะ ลองใส่ดูสิคะ บีรับรองเลยว่าจะทำให้ทุกคนรู้สึกสดใสขึ้นเป็นกอง : )

กระเป๋าก็เหมือนกันค่ะ ผู้หญิงเรามักจะซื้อของ copy ตามกันไปหมด เราก็จะเห็นสาวๆส่วนใหญ่ หลายวัย หลากอาชีพ แต่งตัวคล้ายกัน หิ้วหรือสะพายกระเป๋าหลุยส์ก๊อปปี้เหมือนกันขึ้นรถ BTS และ MRT แต่หน้ากับการแต่งตัวมันไม่ให้เล้ยย เหลือบดูก็รู้ค่ะ ไม่ต้องพลิกกระเป๋า แวบเดียวจากบุคลิก การแต่งกายโดยรวม ก็ประเมินได้แล้วค่ะ ว่ากระเป๋าจริงหรือ copy

บีอยากให้พี่ๆน้องๆหันมาลองเลือกซื้อกระเป๋าที่ดีไซน์หรือรูปลักษณ์ของมันมากกว่า หากฐานะไม่ถึง ไม่จำเป็นต้องเป็น
แบรนด์เนมอะไรหรอกค่ะ เลือกกระเป๋าสวยๆดีไซน์เก๋ ตัดเย็บดีเหมาะกับเราก็สวยเกินพอแล้วค่ะ

การแต่งหน้า

บีเชื่อว่าทุกคนคงมีความรู้เรื่องการแต่งหน้ากันอยู่บ้างแล้วนะคะ บีว่าคงไม่ต้องบอกกันมากในเรื่องนี้ แต่บีอยากข้อเน้น เรื่องการแต่งหน้าให้ดูธรรมชาติและเหมาะกับงานและสถานที่ที่จะต้องไปดีกว่านะคะ

จากการที่บีสัมภาษณ์ฝ่ายชายทุกชาติ ศาสนา และช่วงวัย นอกจากเรื่องรูปร่างที่ดีสมส่วน ห้ามอ้วนและอวบอั๋นเด็ดขาดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายชายเน้นนักหนาก็คือเรื่องหน้าตาที่แต่งแบบธรรมชาติ ชายหนุ่มบางคน (แต่ส่วนน้อยค่ะ) ถึงกับบอกบีว่า ไม่ต้องแต่งเลยยิ่งดีครับ ผมชอบแบบธรรมชาติ (แต่หวีผมสักหน่อยนะคะ หลังจากตื่นนอน)

ไม่มีชายหนุ่มคนใดสักคนเลยค่ะ ที่บอกบีว่า ต้องการเจอฝ่ายหญิงที่แต่งหน้าหนาๆ จัดๆ (อันนี้ รวมถึงการฉีด Botox มากเกินไปด้วยนะคะ บีเคยเห็นบางคน ฉีด Botox เสียหน้าไม่ขยับเลยค่ะ แม้กระทั่งเวลายิ้ม อันนี้ก็ห้ามเด็ดขาดนะคะ)

ชายหนุ่มมักจะบอกว่าเขาชอบฝ่ายหญิงที่แต่งหน้าธรรมชาติ หน้าเนียน (ไม่มันแวววาวด้วยเหงื่อ) ไม่รองพื้นเสียหนาจนดูหน้าเป็นขนมเค้กในเวลากลางวัน ยามค่ำ ไปงานกลางคืน อาจจะเข้มได้อีกเล็กน้อย

หากไม่รู้จะแต่งหน้าแนวธรรมชาติเนียนใสอย่างไรจริงๆ ก็อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำกันเลยค่ะ ไปเคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์สักที่ โดยเน้นแบรนด์ที่มักจะแต่งหน้าออกแนวโทนใสธรรมชาติ แล้วขอให้เขาช่วยแต่งให้เป็นแนวทางนะคะ

หรือไม่ เดี๋ยวนี้แค่ google แต่งหน้าแนวธรรมชาติ ก็มีขึ้นมามากมายเป็นวีดีโอสอนแต่งหน้าให้เราทำตามหน้า laptop ได้เลยในห้องนอน : ) ลองกันดูนะคะ

ที่แบงคอก แมทชิ่ง บีให้ความสำคัญเรื่องการแนะนำสมาชิกให้รู้จักการดูแลความสวยงามของตัวเองมาก เรามี Make up artist และ Stylelist แนะนำการแต่งหน้า การแต่งกายให้สมาชิกของเราด้วยนะคะ หากพี่ๆน้องๆท่านใด ต้องการคำแนะนำ โทรศัพท์มาสอบถามกันได้ค่ะ : )

นิสัย

หลังจากที่คุณผ่านด่านหน้าตาของฝ่ายชายมาแล้ว ต่อไป หากเขาเลือกคบคุณด้วยความจริงใจเพื่อความสัมพันธ์อันจริงจังแล้ว เขาจะเน้นที่นิสัยของคุณล่ะค่ะ

ฝ่ายชายร้อยทั้งร้อยล่ะค่ะ เขามองหาผู้หญิงที่มีนิสัยที่ดี นิสัยน่ารัก จิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ ไม่ขี้เหนียวจนเกินเหตุ ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัว มีงานการทำ ไม่เห็นเขาเป็นบ่อทองเคลื่อนที่ เป็นคนร่าเริง แจ่มใส มองโลกแง่ดี สบายๆ ไม่ง๊องแง๊ง งี่เง่า ขี้อ้อนเกินเหตุ มีเหตุผล ไม่เหวี่ยงวีน จิกกัด ดุดันเป็นแม่เสือสาว ตะคอกเอาๆ อารมณ์ขึ้นลงเป็นวันเมนส์มา อย่างนี้ไม่มีใครเขาอยากอยู่ใกล้หรอกนะคะ สวยแค่ไหน งานนี้ก็ไม่มีใครทน

พูดไป แล้วก็นึกได้ว่า บีมีลูกค้าชายอยู่ท่านหนึ่งซึ่งประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากมาย บอกบีว่า สเปคเขา
ต้องการสาวอายุน้อย สวยมากๆ นิสัยไม่ดีไม่เป็นไร บียังถามกลับไป ว่าเอาจริงเหรอคะ นิสัยไม่ดีไม่เป็นไรนี่นะคะ เน้นสวยมากๆๆๆเอาไว้ก่อน

สามารถอ่านรายละเอียด ข้อมูลของบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ได้ตามหน้าต่อไปนี้ค่ะ
 
คู่รักหาคู่สำเร็จ
 
บริการจัดหาคู่ของบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
 
เกี่ยวกับเรา ความเป็นมา ของ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
 
การติดต่อ การเดินทางมายัง บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
 
คำถามเกี่ยวกับการหาคู่ บริการจัดหาคู่พรีเมี่ยม ของ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
Top