ผลสำรวจชี้! “วันวาเลนไทน์” “วันแห่งความรัก” 14 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ Gen Z อยากออกเดทมากสุด กุหลาบแดงเป็นของขวัญที่อยากได้ที่สุด

SHARE

“วันวาเลนไทน์” วันแห่งความรัก 2567 “ของขวัญ วันวาเลนไทน์” ออกเดทที่ไหนดี และประวัติ “วันแห่งความรัก วาเลนไทน์”

ผลสำรวจชี้! “วันวาเลนไทน์”

วันแห่งความรัก”  14 กุมภาพันธ์ 2567 นี้

Gen Z อยากมีคู่ควงมากที่สุด ตามด้วย Gen Y

 

กุหลาบแดง เป็นสิ่งที่คนอยากได้มากอันดับ 1

เป็นของขวัญ วันวาเลนไทน์

และ สถานที่คนเลือกไปเดทมากที่สุด คือ ห้างสรรพสินค้า ในวันแห่งความรัก

 

วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักใกล้จะมาถึงอีกแล้วนะคะ ปีนี้ วันแห่งความรักตรงกับวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ค่ะ  คนโสดทราบไหมคะว่า จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า Gen Z (อายุ 12-25 ปี) เป็น Gen ที่ตอบรับกระแสวันวาเลนไทน์มากที่สุด ตามด้วย Gen Y (อายุ 26-41 ปี)

 

          นอกจากนี้ จากการติดตามการค้นหาคีย์เวิร์ด/คำของคนในประเทศไทยจากเว็บไซต์ Google ในช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีการค้นหาเกี่ยวกับ “ดอกกุหลาบ” มากที่สุด รองลงมาคือ “ช่อดอกไม้” ตามด้วย “ช็อกโกแลต” และ “ตุ๊กตาหมี” ซึ่งผล Insight ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นตัวแปรที่บอกว่าคนไทยมีความสนใจในวันวาเลนไทน์มากอย่างมีนัยสำคัญ

 

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ ม.หอการค้าไทย ได้เผยผลโพลจากการสำรวจในเรื่อง “พฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนช่วงวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ประจำปี 2566”  ให้ได้ทราบว่าสถานที่ที่คนนิยมออกเดทได้แก่ 

  • ห้างสรรพสินค้า
  • คาเฟ่
  • ร้านอาหาร

 

ซึ่งสอดคล้องกับการออกเดทของสมาชิกหาคู่ ของบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching เช่นกัน ทิ่นิยมนัดพบ ทานอาหาร และออกเดทที่ร้านอาหาร หรือ คาเฟ่ ในห้างสรรพสินค้าเป็นส่วนใหญ่

 

และแม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching พบว่าคำค้นหาระหว่างวันที่ 1-14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่าน คำ “บาร์” และ “ถนนเจริญกรุง” ถูกค้นหาเพิ่มขึ้นสูงในช่วงวันแห่งความรัก วาเลนไทน์ด้วย จึงกล่าวได้ว่า ร้านอาหารกินดื่มประเภทบาร์ในย่านเจริญกรุงที่มีบรรยากาศเมืองเก่าที่ถูกปรับแต่งจนสวยงามนั้นเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมสำหรับคนที่ออกไปฉลองเทศกาลวันวาเลนไทน์

 

“วันวาเลนไทน์” วันแห่งความรัก 2567 “ของขวัญ วันวาเลนไทน์” ออกเดทที่ไหนดี และประวัติ “วันแห่งความรัก วาเลนไทน์”
“วันวาเลนไทน์” วันแห่งความรัก 2567 “ของขวัญ วันวาเลนไทน์” ออกเดทที่ไหนดี และประวัติ “วันแห่งความรัก วาเลนไทน์”

 

ทำไม “Gen Z” ตัวตึงนักเซ็ทเทรนด์เดท ถึงให้ความสำคัญกับ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์

 

สำหรับกลุ่ม Gen Z นั้นเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนยุคใหม่ที่เข้ามาเขย่าโลกของการเดทให้เกิดเอฟเฟ็คต่าง ๆ มากมาย ทั้งเกิดสีสันในการเดท เปิดทัศนคติคนในสังคมให้กว้างขึ้น รวมถึงการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต จนทำให้กลุ่มคน Gen Z มีอิทธิพลมากกับหัวข้อความสัมพันธ์ยุคใหม่ เพราะคน Gen นี้จะเป็นเหมือนตัวกำหนดเทรนด์การเดทในแต่ละช่วงว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หรือบอกได้ว่าสังคมกำลังให้ความสนใจกับอะไร 

 

และเมื่อมาถึงเทศกาลแห่งความรัก อย่างวันวาเลนไทน์แล้ว ก็ไม่แปลกที่ชาว Gen Z จะถูกปลุกจิตวิญญาณตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับความตื่นเต้น ตื่นตัวให้กับเทศกาลแห่งความหวานชื่น และโรแมนติกแบบนี้ จนทำให้ผลสำรวจแทบทุกสำนักในไทยเห็นพ้องต้องกันว่า “คน Gen Z มีความตื่นตัวกับวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์มากที่สุด” รวมถึง คน Gen Z เห็นความสำคัญของการมีคนรัก และอยากมีคู่ควงในวันวาเลนไทน์ด้วย  รองลงมาคือ Gen Y

 

โดยสวนดุสิตโพลได้ทำการศึกษาในหัวข้อ “มุมมองความรักของคนไทย ณ วันนี้” จากกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่จำนวน 1,059 คน ในคำถามที่ว่า ประชาชนคิดว่าการมี “ความรักแบบคนรัก” เป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่ ผลตอบรับอันดับ 1 คือ “จำเป็นมาก” อยู่ที่ 36.89% รองลงมาคือ “จำเป็นมากที่สุด” อยู่ที่ 28.77% และคนที่คิดว่าไม่ค่อยจำเป็นมีน้อยที่สุด คือ 11.42% เท่านั้น จึงจะเห็นได้ว่าทัศนคติด้านการมีคู่ควง มีคนรัก เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ “จำเป็นต้องมี” ในสังคมยุคนี้ก็ว่าได้เลยนะคะ 

 

และในคำถามถัดมาก็ได้แสดงให้เห็นมุมมองด้านพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรักของคนในสังคมปัจจุบัน พบว่าการแสดงความรักที่คนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกัน อันดับ 1 ก็คือ “การได้ใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกัน” มีคนเห็นด้วยมากที่สุดถึง 66.64% รองลงมาคือการอยู่เคียงข้าง คอยเป็นกำลังใจและห่วงใยกัน 63.52% และอันดับสุดท้ายคือการขอบคุณและคอยชื่นชมกันและกัน ที่ 62.33% ซึ่งทั้ง 3 ตัวเลือกนี้ถือว่ามีความห่างของจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้ห่างกันเท่าไหร่

 

จากข้อมูลนี้ จึงสรุปได้ง่าย ๆ ว่า นอกจากคนยุคใหม่จะให้ความสำคัญกับการเดทและการออกเดทแล้ว “การอยู่ด้วยกันและทำกิจกรรมร่วมกัน” รวมถึงการคอยซัพพอร์ตเป็นกำลังใจให้กันนั้นถือเป็นสิ่งที่คนในสังคมไทยมองว่าเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ชัดเจนที่สุด ทำให้ไม่แปลกที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ ปี 2567 นี้บรรยากาศในหมู่คู่รักจะยังคึกคักและออกมาเดท มาใช้เวลาร่วมกัน เพื่อแสดงความรักและดื่มด่ำบรรยากาศความหวานของวันแห่งความรัก

 

นอกจากนั้นอีก 1 พฤติกรรมน่าสนใจของคน Gen Z จากผลสำรวจของ The 1 Insight ในหัวข้อ “4 พฤติกรรมช้อปส่งท้ายปี” ก็พบว่า คนกลุ่มนี้คือกลุ่มที่มักให้ความสำคัญกับช่วงเทศกาลต่าง ๆ และใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อของช้อปปิ้งในช่วงเทศกาลมากที่สุด โดยมียอดใช้จ่ายที่ 45% รองลงมาคือ Gen Y และ Gen X (อายุ 42-57 ปี) ตามลำดับ 

 

จึงไม่แปลกเลยนะคะ ที่ผลโพลแทบทุกสำนักจะออกมาตรงกันว่า “คน Gen Z ตื่นเต้นกับเทศกาลวันแห่งความรักมากที่สุด” 

 

ของขวัญมาแรงอันดับ 1 ที่คนไทยอยากได้ในวันวาเลนไทน์ คือ “ดอกกุหลาบสีแดง”

 

ผลสำรวจจากสวนดุสิตโพลยังชี้ให้เห็นอีกว่า ของขวัญที่คนไทยอยากได้ในวันวาเลนไทน์มากที่สุด อันดับ 1 ได้แก่ ดอกไม้และช่อดอกไม้ 48.07% โดยเฉพาะ “ดอกกุหลาบแดง” เป็นดอกไม้ที่คนอยากได้มากที่สุดในช่วงวันวาเลนไทน์ รองลงมาคือ “กุหลาบสีขาว” “กุหลาบสีเหลือง” และปิดท้ายด้วย “กุหลาบสีชมพู”

 

แล้วรู้ไหมคะว่าทำไมถึงต้องเป็นดอกกุหลาบสีแดง ? เพราะว่าดอกกุหลาบสีแดงถือเป็นสัญลักษณ์คลาสสิคของวันแห่งความรัก รวมถึงมีความหมายดี ๆ แฝงอยู่ในดอกกุหลาบแต่ละสีดังนี้

 

  • กุหลาบสีแดง: สื่อถึงความรัก ความโรแมนติก ความหลงใหล เป็นตัวแทนความรู้สึกรักที่แสนจะร้อนรุ่ม จึงเป็นที่นิยมมอบให้กันเป็นตัวแทนแห่งความรักที่ลึกล้ำให้กันในวันวาเลนไทน์
  • กุหลาบสีขาว: สื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์แท้จริงจากจิตใจ สื่อได้ถึงการเริ่มต้นใหม่ที่สวยงามและความรักอันเป็นนิจนิรันดร์

 

  • กุหลาบสีเหลือง: สื่อถึงความรักที่อบอุ่นและสดใส เป็นการสื่อถึงรักที่มีความสุขสมหวัง

 

  • กุหลาบสีชมพู: สื่อถึงความรักที่มีการให้เกียรติ เคารพ และบอกให้รู้ว่าคุณคือสมบัติที่มีค่าน่ารักษาทะนุถนอม

 

ทริคดี ๆ จากแม่สื่อ: ออกเดทในวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์อย่างไรให้ประทับใจคู่เดท 

 

         พูดถึงความสนใจในการเดท ทัศนคติที่มีต่อการมีคู่รัก และสถานที่ที่คนนิยมไปออกเดทกันแล้วนั้น มาดูกันบ้างค่ะว่า เมื่อบรรยากาศพร้อม ของขวัญพร้อม แล้วออกเดทอย่างไรให้ได้ใจคู่เดท เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการเพิ่มความหวาน หรือใครที่ตัดสินใจออกเดทครั้งแรกในวันวาเลนไทน์นี้ ถ้าอยากเดทจบแล้วแต่ความสัมพันธ์ได้ไปต่อ ต้องทำตามคำแนะนำของแม่สื่อดังนี้ค่ะ

 

  1. วางแผนล่วงหน้า 

 

เคยได้ยินกันไหมคะว่า Preparation Makes Perfect ซึ่งเป็นจริงตามนั้นทุกประการ ก่อนที่จะออกเดทแม่สื่ออยากแนะนำว่าให้ทุกคนเตรียมตัว วางแผน และคิดแพลนทุกอย่างเอาไว้ อาจจะไม่ต้องเป๊ะเหมือนแพลนเที่ยว แต่เตรียมตัวจองโต๊ะ จองร้านอาหาร และนัดหมายคู่เดทล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อให้การออกเดทเป็นไปอย่างราบรื่น อย่าลืมนะคะว่ายิ่งในช่วงเทศกาลพิเศษร้านอาหารต่าง ๆ มักจะไม่ค่อยมีคิวว่างให้เรา Walk-in 

ถ้าไม่อยากจูงมือคู่เดทไปนั่งรอคิวร้านอาหารจนช็อตฟีลหวานในวันวาเลนไทน์ การเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงสำคัญที่สุดค่ะ โดยสามารถเตรียมตัวได้กับทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม ถ้ามีเสื้อผ้าที่ต้องสั่งซื้อและใช้เวลาในการส่ง หรือป้องกันปัญหาฉุกเฉินต่าง ๆ วางแผนล่วงหน้าเท่านั้นคือคำตอบค่ะ

 

  1. เตรียมตัวให้พร้อมในวันออกเดท

 

นอกจากวางแผนล่วงหน้าแล้ว การเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้การออกเดทเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด จนเป็นคืนพิเศษที่น่าประทับใจ แม่สื่อขอแนะนำว่าสำหรับใครที่ไม่ชอบพกเงินสด ให้กดเอาเงินสดมาพกติดตัวไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด เราก็ยังมีเงินสดที่ใช้จ่ายได้ทันทีเสมอ รวมถึงบัตรเครดิต เช็กให้แน่ใจว่าวงเงินของคุณมีเพียงพอถ้าหากอยากจะเป็นเจ้ามือ หรืออยากจะรูดซื้ออะไรให้เป็นของขวัญ วันวาเลนไทน์กับคู่เดท เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเสียหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกกรณี ที่สำคัญต้องทำจิตใจให้เบิกบานเพื่อส่งพลังงานดี ๆ ให้กับคู่เดทด้วยนะคะ

 

  1. ใส่ใจรายละเอียดคู่เดท

 

          ในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  ไม่ต้องอายที่จะแสดงความหวานของคุณออกมาให้เต็มที่ คุณสามารถแสดงความสนใจใส่ใจให้กับคู่เดทได้ตั้งแต่แรกเจอหน้ากัน เช่น การอาสาช่วยถือกระเป๋า การเลื่อนเก้าอี้ให้อีกฝ่ายก่อนรับประทานอาหาร คอยดูแลความเรียบร้อยและความต้องการของอีกฝ่าย บอกบริกรในสิ่งที่ขาดเหลือให้โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องร้องขอ รับรองว่ากวาดความประทับใจได้อย่างแน่นอน

 

  1. เป็นผู้รับฟังที่ดี

 

          สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการพิชิตใจคู่เดท นั่นก็คือ การทำตัวเป็นผู้รับฟังที่ดี รู้ว่าจังหวะไหนควรฟังและจังหวะไหนควรแสดงความคิดเห็น เพราะธรรมชาติของคนทุก Gen รวมถึงคน Gen Z คือชอบคนที่สามารถให้การพึ่งพาทางอารมณ์ และมีความใส่ใจ สนใจในบทสนทนาหรือเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังสื่อสารอย่างแท้จริง เพราะทำให้รู้สึกเชื่อมต่อถึงกันได้มากกว่าการที่อีกฝ่ายเพียงฟังผ่าน ๆ หรือก้มหน้าก้มตากินอาหารไม่สนใจ ทำให้บทสนทนาขาดความประติดประต่อ พาให้ความประทับใจติดลบอย่างน่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ

 

  1. อย่าลืมของขวัญ

 

กิมมิคเล็กน้อยแต่สำคัญของการออกเดทในวันแห่งความรัก วาเลนไทน์คือการให้ของขวัญเป็นที่ระลึกถึงในวันพิเศษค่ะ  กุหลาบแดงสวย ๆ 1 ดอก หรือกุหลาบช่อโตสักช่อ ก็ทำให้คู่เดทของคุณประทับใจได้ไม่รู้ลืม หรือถ้าหากคุณรู้ว่าอีกฝ่ายชอบอะไรมากกว่าดอกไม้ก็สามารถเตรียมสิ่งเหล่านั้นไปให้ได้ จะช่วยสร้างความรู้สึกให้ดีกว่าการออกไปเดทเปล่า ๆ แต่ไม่มีของขวัญแทนใจอะไรให้กันค่ะ

 

  1. สร้างช่วงเวลาที่สนุกและมีคุณค่า

 

          การออกเดทในวันวาเลนไทน์ นอกจากการเตรียมตัวแล้ว อย่าลืมพกความเป็นธรรมชาติของคุณไปด้วย เพราะถ้าหากมัวกังวลอยู่กับความเป็นทางการ หรือกังวลว่าจะทำเดทครั้งนี้ออกมาไม่ดี ความกังวลเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังคู่เดทจนสัมผัสได้ จากบรรยากาศหวานๆ อาจกลายเป็นความอึดอัดเข้ามาแทนที่ได้ทันที อย่าลืมสร้างช่วงเวลาที่ดี ด้วยกิจกรรมที่ทำร่วมกัน หรือบทสนทนาสบาย ๆ ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กันได้ เพราะเรื่องอะไรแบบนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดเดทครั้งต่อไปตามมานั่นเองค่ะ

 

          และนี่ก็เป็นผลสำรวจน่าสนใจรวมถึงทริคคำแนะนำดี ๆ จากแม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ที่ได้ยกมานำเสนอต้อนรับเทศกาล วันแห่งความรัก วาเลนไทน์ ประจำปี 2567 นี้ให้กับคนโสดทุกคนได้รับทราบ รับรู้ และเตรียมตัวเพื่อการออกเดทที่สมบูรณ์แบบ เชื่อว่ามีประโยชน์สำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังเตรียมตัวออกเดทในคืนวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ด้วยว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ให้ได้ใจคู่เดท เพราะการที่เรารู้จากสถิติและความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ก็ช่วยให้เราตัดสินใจได้มากกว่าการนั่งคิดจินตนาการไปเอง ยังไงแล้ว แม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching ก็หวังว่าวันวาเลนไทน์ปีนี้จะเป็นวันแห่งความรักที่ดีสำหรับทุก ๆ คนนะคะ

 

ปล.  อายุของ 6 Generations

  • 1. The Giver (Silent Genอายุ 77-94 ปี 
  • 2. The Loyalist (Baby Boomer) อายุ 58-76 ปี 
  • 3. The Life Maker (Gen X) อายุ 42-57 ปี 
  • 4. The New Driver (Gen Y) อายุ 26-41 ปี 
  • 5. The Digital Native (Gen Z) อายุ 12-25 ปี 
  • 6. The AI Kids (Gen Alpha) อายุน้อยกว่า 12 ปี

 

ประวัติวันวาเลนไทน์

 

วันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ มีที่มาอย่างไร วันวาเลนไทน์ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Valentine’s Day คือ วันที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 1,500 ปี เนื่องจากวันวาเลนไทน์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 496 ซึ่งถือเป็นวันเฉลิมฉลองนักบุญของศาสนาคริสต์ ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะถูกตีความหมายใหม่ ให้กลายเป็นวันแห่งความรัก ที่มีเรื่องราวของความโรแมนติกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

 

ประวัติของวันวาเลนไทน์ กำเนิดขึ้นในสมัยจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) ของกรุงโรม โดยในสมัยนั้นกรุงโรมมักตกอยู่ในภาวะสงครามอยู่บ่อยครั้ง องค์จักรพรรดิทรงชื่นชอบการทำสงคราม จึงสั่งเกณฑ์ผู้ชายไปออกรบ แต่ขณะเดียวกัน ผู้ชายหลายๆ คนก็มีครอบครัว และคนรักที่ต้องดูแล ล้วนไม่อยากจากครอบครัวเพื่อไปเสี่ยงชีวิตในสนามรบ

 

จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 จึงทรงสั่งยกเลิกพิธีหมั้น และการแต่งงานในกรุงโรมทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนไปออกรบ แต่นักบุญผู้มีชื่อว่า “วาเลนตินัส” หรือที่รู้จักกันในนาม “นักบุญวาเลนไทน์” ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว จึงชักชวนคู่รักในกรุงโรมให้เข้าพิธีแต่งงาน ทำให้จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ไม่พอพระทัย สั่งจับตัวนักบุญวาเลนไทน์ มากักขังไว้ และมีคำสั่งประหารชีวิต  ทว่า นักบุญได้ตกหลุมรักลูกสาวของผู้คุม ซึ่งเป็นหญิงสาวตาบอดสนิททั้งสองข้าง ก่อนจะถึงเวลาประหาร เขาได้ส่งจดหมายถึงหญิงตาบอด โดยลงท้ายข้อความในจดหมายฉบับนั้นว่า “From your Valentine” เรื่องราวสุดเศร้านี้เผยแพร่ออกไปทั่วกรุงโรม ส่วนนักบุญวาเลนไทน์ ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์

 

นับตั้งแต่นั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงถือเป็น “วันวาเลนไทน์”  วันแห่งความรัก เพื่อระลึก และยกย่องความรักอันบริสุทธิ์ของนักบุญวาเลนไทน์ผู้ล่วงลับ เรื่องราวของเขา ถูกพูดถึงในประเทศต่างๆ ทั่วยุโรป ทำให้วันวาเลนไทน์ กลายเป็นวันที่มีความสำคัญในการเฉลิมฉลองความรัก จวบจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

 

อ้างอิงข้อมูล

www.thairath.co.th

www.tnnthailand.com

www.brandinside.asia

 

 

เรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับ Bangkok Matching บริษัทจัดหาคู่ 

 

[seed_social]

Top