Free Reading Thai Dating Advice book how to get a good guy 7261

SHARE

Free Reading All The Rules best Thai dating book

กฏเหล็ก
ร้อยเล่ห์ เคล็ดลับ มัดใจชาย
เล่ม 1

บทที่ 
อะไรคือ “กฏเหล็ก”

กี่ครั้งกี่หนที่คุณได้ยินคำพูดประมาณว่า “เธอแสนดี เธอสวย เธอฉลาด..แล้วทำไมถึงยังไม่ได้แต่งงานล่ะ” บางที คำพูดนี้อาจเป็นคำพูดที่คนอื่นพูดถึงคุณก็เป็นได้ คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ สติปัญญาธรรมดาๆ ถึงดึงดูดชายหนุ่มหลายๆคนได้โดยแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร

พูดกันตามจริง ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เรารู้จักมักคิดว่าการย้ายที่อยู่ การเปลี่ยนงาน หรือแม้แต่การวิ่งมาราธอนนั้นง่ายกว่าการทำให้ผู้ชายที่ใช่ขอเธอแต่งงาน ถ้าสิ่งที่พูดเหล่านี้ฟังดูคล้ายๆ คุณแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่า คุณต้องการกฎเหล็ก!

กฎเหล็ก คืออะไร กฎเหล็ก ก็คือหลักการปฏิบัติตนง่ายๆ ที่หญิงสาวใช้กับชายหนุ่ม เพื่อช่วยให้พวกเธอชนะใจชายในฝันได้ นั่นอาจฟังดูดีจนไม่น่าเชื่อ ตอนแรก เราเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่จงอ่านต่อไป!

เป้าหมายของกฎเหล็ก ก็คือการทำให้ชายหลงใหลและอยากเป็นเจ้าของคุณ ด้วยการวางตัวคุณให้ยากต่อการครอบครอง พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการเล่นตัวนั่นเอง เมื่อคุณทำตามกฎเหล็ก แล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะอยากแต่งงานกับคุณ ชายหนุ่มของคุณยังจะหลงใหลคลั่งไคล้คุณไปตลอดกาล! เราสัญญาว่าสิ่งที่คุณจะได้มาคือ “ความสุขตลอดกาลนาน” การแต่งงานที่สุขล้นราวกับขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว

หากคุณปฏิบัติตาม กฎเหล็ก แล้ว มั่นใจได้เลยว่า สามีจะเทิดทูนคุณราวกับคุณเป็นเจ้าหญิง แม้ในยามที่เขาโมโหคุณมากมายก็ตาม ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะเขาทุ่มเทเวลามากมายกว่าจะได้คุณมาครอบครอง คุณจึงกลายเป็นสมบัติล้ำค่าเกินกว่าที่เขาจะทำเมินเฉยได้ เขาจะนึกถึงคุณตลอดเวลา เขาจะเป็นเพื่อนที่ประเสริฐ เป็นเพื่อนยากที่คอยร่วมทุกข์กับคุณ เขาจะรู้สึกผิดหวัง หากคุณมีปัญหาแล้วไม่ปรึกษาเขา เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ – เมื่อคุณเริ่มงานใหม่ หรือเมื่อคุณต้องเข้ารับการผ่าตัด เขาอยากที่จะมีส่วนร่วมในทุกๆ เรื่องเคียงข้างคุณ แม้แต่เรื่องธรรมดาๆ อย่างการเลือกผ้าปูที่นอนก็ตาม เขาอยากทำทุกอย่างร่วมกับคุณเสมอ

เมื่อคุณปฏิบัติตาม กฎเหล็ก แล้ว คุณไม่ต้องกังวลเลยว่าเขาจะเจียดเวลาไปจีบสาวอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้านทรงเสน่ห์ หรือเลขาสาวทรงโต เพราะว่าเมื่อคุณปฏิบัติตาม กฎเหล็ก แล้ว เขาจะเห็นว่าคุณแสนจะเซ็กซี่กว่าสาวใดๆ! เมื่อคุณทำตาม กฎเหล็ก คุณไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเพิกเฉย ถูกละเลย หรือถูกทิ้ง!

ผู้หญิงที่ปฏิบัติตาม กฎเหล็ก ที่เรารู้จัก ได้แต่งงานไปกับผู้ชายดีเลิศ สามีเธอไม่เคยพยายามที่จะหนีเธอเพื่อไปสังสรรค์กับก๊วนเพื่อนเลย กลับกันเมื่อเธอขอแยกไปทำกิจกรรมส่วนตัว เขากลับเป็นฝ่ายหงุดหงิดเสียเอง

ธรรมชาติของผู้ชายนั้นแตกต่างจากผู้หญิง ผู้หญิงที่โทรหาผู้ชายแล้วชวนเขาออกเดท โดยอ้างว่ามีตั๋วหนังสองใบ หรือทอดกายให้เขาตั้งแต่เดทแรก ได้ทำลายความปรารถนาและสัญชาตญาณดิบในตัวผู้ชายไปอย่างสิ้นเชิง ผู้ชายเกิดมาเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทาย เมื่อไม่มีความท้าทาย ผู้ชายก็หมดความสนใจ นั่นคือ กฎเหล็ก ใช่ ผู้ชายบางคนอาจจะแต่งงานกับคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ปฏิบัติตาม กฎเหล็ก แต่เราไม่กล้ารับประกันว่า สุดท้ายการแต่งงานนั้นจะเป็นการแต่งงานที่มีความสุข

หลักการ คือ หากผู้ชายชอบความท้าทาย เราก็ทำตัวให้ท้าทาย แต่อย่าไปถามเขาว่าเขาชอบความท้าทายหรือเปล่า เขาอาจคิดหรือบอกคุณว่าเขาไม่ชอบความท้าทาย ตัวเขาเองอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ารู้สึกยังไง จงดูการกระทำของเขา แทนที่จะฟังเขาพูด

ขณะอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณอาจคิดว่า กฎเหล็ก นั้นขีดเส้นไว้ตายตัวและอาจสงสัยว่า “ฉันจะต้อง “เล่นตัว” สักแค่ไหนนี่ แล้วฉันจะไม่มีโอกาสทำอาหารเย็นให้เขาเลยเหรอ หรือการไปดูการแสดงกับเขาล่ะ แล้วถ้าฉันเกิดอยากคุยกับเขาขึ้นมาล่ะ โทรหาเขาไม่ได้เหรอ แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลาเปิดใจคุยเรื่องส่วนตัวได้”

คำตอบคือ: อ่าน กฎเหล็ก ซะ จงเดินตาม กฎเหล็ก ทุกย่างก้าว (ไม่ใช่ทำตามเพียงบางอย่าง) แล้วคุณจะยินดีที่ได้ปฏิบัติตาม เราต่างรู้จักผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าพวกเธอสามารถไว้ใจสามีได้อย่างเต็มที่ และพวกเธอรู้สึกไม่มั่นคงตลอดเวลา ผู้หญิงเหล่านี้บางคนถึงกับต้องพึ่งจิตแพทย์เพื่อระบายความในใจเรื่องถูกสามีละเลย กฎเหล็ก จะช่วยให้คุณประหยัดเงินจ่ายจิตแพทย์ชั่วโมงละ 125 เหรียญ!!

แน่นอนว่าสำหรับผู้ชายที่คุณไม่เสน่หา คุณสามารถปฏิบัติตาม กฎเหล็ก กับพวกเขาได้อย่างสบายๆ คุณไม่เคยคิดอยากจะโทรหาเขาก่อน หรือคิดจะโทรกลับทันทีที่เห็นสายที่คุณไม่ได้รับของเขา คุณไม่รู้สึกอยากส่งอีเมลล์หวานแหววถึงเขา บางครั้ง คุณก็ทำตัวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมไม่แน่นอน และนั่นทำให้ผู้ชายเหล่านี้คลั่งไคล้ในตัวคุณ จนสุดท้ายคุณก็ได้แต่งงานกับหนึ่งในผู้ชายเหล่านี้ นั่นก็เพราะคุณได้ปฏิบัติตามกฏเหล็ก (โดยที่คุณไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำ) แล้วผู้ชายพวกนั้นก็ขอคุณแต่งงาน!

แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ตั้งเป้าไว้แค่นั้น วัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มนี้คือ การปฏิบัติตาม กฎเหล็ก กับหนุ่มในฝันที่คุณคลั่งไคล้ คุณจำเป็นต้องใช้ความพยายาม ความอดทนและการหักห้ามใจ แต่คุณจะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ทำไมคุณจะยอมลดสเปคไปแต่งงานกับคนที่รักคุณ แต่ไม่ใช่คนที่คุณรักอย่างสุดหัวใจด้วยล่ะ ผู้หญิงหลายคนที่เรารู้จักต่างตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่อย่าห่วง – หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณได้แต่งงานกับคนที่ใช่!

สิ่งที่คุณต้องทำ ก็คือ ปฏิบัติกับหนุ่มที่คุณหลงไหลให้เหมือนกับชายที่คุณไม่สนใจ – อย่าโทรหา และทำตัวไม่ว่างบ้างบางครั้ง ให้ทำอย่างนี้กับเขาตั้งแต่เริ่ม – ตั้งแต่วันแรก! ทำตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเจอเขา – หรือพูดใหม่ให้ถูกกว่า คือ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเจอคุณ! ยิ่งคุณปฏิบัติตามกฎเหล็ก อย่างเคร่งครัดเพียงใดตั้งแต่เริ่มต้น เขาก็จะยิ่งตกหลุมรักคุณมากขึ้นเท่านั้น

จงคิดเสมอว่า “ฉันจะทำตัวยังไง ถ้าฉันไม่ได้สนใจเขาจริงๆ” แล้วก็ทำตัวให้ได้อย่างนั้น คุณคงไม่ทอดสะพานให้กับคนที่คุณไม่สนใจ คุณคงไม่อยากคุยโทรศัพท์กับเขาเป็นชั่วโมงๆ คุณจะไม่อยากทำอย่างนั้นแน่นอน!

อย่ากังวลว่าการที่คุณทำตัวยุ่งหรือทำเป็นเพิกเฉย จะทำให้เขาตีตัวออกห่าง จำได้ไหมว่าผู้ชายที่คุณไม่สนใจต่างขยันโทรหาคุณแม้ว่าคุณจะทำเมินเฉยใส่

จงจำไว้ว่า กฎเหล็ก ไม่ได้มีไว้เพื่อให้ผู้ชายคนไหนก็ได้มาหลงไหล มาขอคุณแต่งงาน แต่ กฎเหล็ก มีไว้สำหรับทำให้ชายในฝันขอคุณแต่งงาน! มันอาจเป็นกลเม็ดที่ฟังดูโบราณ แต่ว่ามันได้ผล!

เราเข้าใจว่าทำไมหญิงเก่งยุคใหม่ถึงเมินคำแนะนำของพวกเรา สาวๆเหล่านั้นต่างเป็นมหาบัณฑิต MBA ที่คุ้นเคยกับการ “ทำให้เกิดขึ้น” และความกระตือรือร้นในการก้าวหน้าในอาชีพการงานจนเป็นเจ้าคนนายคน แต่การสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มนั้นแตกต่างจากการทำงาน ในความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายนั้น ผู้ชายควรเป็นฝ่ายคุมเกม เขาควรเป็นฝ่ายขอแต่งงาน เราไม่ได้ทึกทักเรื่องนี้ขึ้นเองนะ – ข้อเท็จจริงทางชีววิทยาก็บ่งชัดว่าเพศชายเป็นฝ่ายรุก

หญิงสาวหลายคนบ่นว่า กฎเหล็ก ทำให้พวกเธอไม่เป็นตัวของตัวเองและรู้สึกไม่สนุกกับการออกเดท แต่พอถึงคืนวันเสาร์ที่พวกเธอกลับบ้านด้วยความโดดเดี่ยวเพราะไม่ทำตาม กฎเหล็ก พวกเธอก็จะกลับมาหาเราแล้วพูดว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ บอกฉันซิว่าฉันต้องทำยังไงบ้าง”

การทำสิ่งที่ตัวเองต้องการอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป ตอนสัมภาษณ์งาน คุณคงไม่ปล่อยตัวตามสบาย “เป็นตัวคุณจริงๆ” คุณจะเลี่ยงขนมหวานเมื่อคุณต้องการลดน้ำหนัก ทั้งหมดนี้มีหลักการเดียวกัน ดังนั้นจะฉลาดกว่าหากคุณไม่แค่จะใช้เวลาด้วยกันกับชายหนุ่ม และแหกกฎเหล็ก ทันทีที่คุณออกเดท

หากมองระยะยาวเป็นหลัก การแหก กฎเหล็ก ไม่ใช่สิ่งที่ดี มันอาจส่งผลให้คุณขึ้นคานได้ เราอยากให้คุณคิดถึงอนาคตระยะยาว คิดถึงสามีที่คุณรัก คืนแสนโรแมนติค โซ่ทองคล้องใจ เพื่อนคู่คิด และการแก่เฒ่าไปพร้อมๆ กับเขาคนนั้นที่หลงรักและเทิดทูนคุณแบบสุดหัวใจ

คิดถึงคืนวันเสาร์ที่คุณไม่ต้องโดดเดี่ยวและคุณก็ไม่ต้องร้องขอบรรดาเพื่อนสาวที่แต่งงานแล้วให้จัดนัดบอดให้คุณ คิดถึงการมีคู่ครอง! อย่างไรก็ตาม คุณต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ของคุณอาจดำเนินไปอย่างเชื่องช้าในช่วงสองสามเดือนแรกกว่าคุณจะมัดใจเขาได้สำเร็จ แต่จำได้ไหมว่าการไร้มารยาหญิง การเปิดเผยแสดงออกโต้งๆ ไปทุกเรื่อง ก็ไม่เคยช่วยให้คุณได้ในสิ่งที่คุณหวังไม่ใช่หรือ

มีหนังสือหลายเล่มและทฤษฎีหลายทฤษฎีต่างให้ความหวังมากมาย แต่มีเพียง กฎเหล็ก เท่านั้นที่สัมฤทธิ์ผลจริง คุณจะอ่านเกมออกอย่างง่ายดายเมื่อคุณทำตาม กฎเหล็ก ง่ายมาก หากเขาโทรมาหา ตามจีบขอคุณออกเดท นั่นคือ กฎเหล็ก แต่ถ้าคุณต้องมองข้ามพฤติกรรมบางอย่างของเขา – อย่างเช่น เขาไม่โทรมาหาหลังจากเดทแรกเพราะเขายังทำใจไม่ได้เรื่องแฟนเก่า – และคุณต้องคิดแล้วคิดอีกถึงสิ่งที่เขาพูด คิดจนหัวแทบแตก แล้วคุณต้องเป็นฝ่ายโทรหาเขา นั่นไม่ใช่ กฎเหล็ก จงลืมสิ่งที่เขาอ้างกับคุณ – อย่างเช่น “กลัวการผูกมัด” หรือ “ไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่” จำไว้ว่าเราไม่ใช่จิตแพทย์ เมื่อคุณทำตัวถูกต้อง แล้วเขาโทรมาขอคุณออกเดทนั่นคือ กฎเหล็ก อะไรที่นอกเหนือไปจากนี้ถือเป็นแค่บทสนทนา

 

กฏเหล็ก 1 
เป็น “สิ่งมีชีวิตที่แตกต่าง”

การเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างนั้นเป็นเรื่องของสภาวะรับรู้ทางจิต คุณไม่ต้องรวย ไม่ต้องสวย แล้วก็ไม่ต้องฉลาดหลักแหลมเพื่อที่จะรู้สึกว่า ตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่าง คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่แรกเกิด ของอย่างนี้อยู่ที่การเรียนรู้และการฝึกฝนให้ช่ำชอง เช่นเดียวกันกับ กฎเหล็ก ข้ออื่นในหนังสือเล่มนี้

การเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างนั้นความจริงแล้วเป็นเรื่องของทัศนคติ เป็นสำนึกของความมั่นใจและความเจิดจรัสที่แผ่ซ่านทั้งตัวคุณตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เป็นวิธีการยิ้มของคุณ (ที่ทำให้ทั้งห้องดูสว่างไสว) การพูดอย่างมีจังหวะจะโคน (ไม่ตั้งหน้าตั้งตาพล่ามด้วยความตื่นเต้น) การฟัง (อย่างตั้งอกตั้งใจ) การมอง (ด้วยสายตาที่อบอุ่น ไม่ใช่การจ้องแบบตาไม่กระพริบ) การหายใจ (แบบสบายๆ) การยืน (หลังตรง) และการเดิน (อย่างเฉิดฉาย อกผายไหล่ผึ่ง)

ไม่สำคัญว่าคุณไม่ได้เป็นดาวมหาวิทยาลัยหรือไม่ได้จบปริญญาตรี หรือว่าคุณจะไม่ได้ติดตามข่าวสารปัจจุบันในสังคมเลย แต่คุณยังคงคิดว่าคุณ “ดีพอ”! คุณมั่นใจยิ่งกว่าผู้หญิงที่จบ MBA หรือผู้หญิงที่มีเงินมากมายในบัญชีธนาคาร คุณไม่รู้สึกต่ำต้อย คุณไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังหรือกระวนกระวาย คุณไม่เดทกับผู้ชายที่ไม่ต้องการคุณ คุณเชื่อในเรื่องความสมบูรณ์และความดีงามของโลก หากเขาไม่ใช่คนที่ใช่ จะต้องมีคนที่ดีกว่า คุณจะไม่แต่งงานกับใครก็ได้ ให้สักแต่ว่าแต่ง คุณไม่ตามตื้อใครและไม่ใช้เซ็กส์ล่อให้ผู้ชายรักคุณ คุณเชื่อในรักแท้และการแต่งงาน คุณไม่ประชดประชันและไม่แตกสลายเป็นเสี่ยงๆเมื่อความสัมพันธ์จบลง ตรงกันข้าม คุณจะออกไปทำเล็บ ไปออกเดทครั้งใหม่ หรือไปงานเต้นรำสำหรับคนโสด คุณเป็นคนมองโลกแง่ดี คุณปาดน้ำตาทิ้งเพื่อไม่ให้เครื่องสำอางเลอะหน้า แล้วคุณก็ดำเนินชีวิตต่อไป! แน่นอน นั่นไม่ใช่ความรู้สึก ที่แท้จริงของคุณ แต่คุณต้องแสร้ง ทำ จนรู้สึกว่านี่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ คุณปฏิบัติประดุจว่า คุณเป็นแบบนั้น!

เมื่อคุณออกเดท คุณไม่เคยแสดงว่าการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งในใจคุณ คุณจะมีท่าทางสบายๆ จนทำให้เขาคิดว่าคุณคงปฏิเสธ การขอแต่งงานมาแล้วหลายครั้งหลายหน คุณจิบ -ไม่ใช่ซด- เครื่องดื่มแล้วปล่อยให้เขาค้นหาความเป็นตัวตนของคุณ แทนที่คุณจะเป็นฝ่ายบอกเขาเสียเองไปหมด คำตอบของคุณจะสั้นๆได้ใจความ สบายๆและหยอดนิดๆ กริยาของคุณนุ่มนวลและเป็นผู้หญิง คุณเอียงศรีษะเล็กน้อย แล้วใช้นิ้วมือของคุณค่อย ๆ ลูบผมตั้งแต่ศีรษะลงมาตามเส้นผมอย่างช้า ๆ

ทุกความเคลื่อนไหวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อคุณขอตัวเข้าห้องน้ำ หรือชำเลืองมองนาฬิกาเพื่อขอจบเดทจะต้องลื่นไหลและเซ็กซี่ ไม่ตะกุกตะกักหรือดูแข็งเกร็ง คุณผ่านการเดทมามากมาย คุณเชี่ยวชาญการออกเดท และเพราะคุณใส่ใจตัวเองเป็นอย่างดี คุณจะไม่นอนจิตตกบนเตียงและสวาปามคุ้กกี้ก่อนออกเดท ตรงกันข้าม คุณจะแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ อ่านหนังสือเล่มนี้และสร้างกำลังใจให้ตัวเองด้วยข้อคิดแง่บวกอย่าง
“ฉันเป็นผู้หญิงสวย ฉันดีพอ” คุณบอกตัวเองว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากไปกว่าพาตัวเองไปออกเดท เขาจะรักคุณหรือไม่ หรือเขาจะโทรมาอีกไหม ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณสวยทั้งจิตใจภายในและรูปลักษณ์ภายนอก ถ้าเขาไม่รักคุณก็ยังมีคนอื่นอีกมากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณต้องจบเดทก่อน (ดู กฎเหล็ก 11)

เวลาคุณไปงานเต้นรำหรือปาร์ตี้คนโสด จงทำตัวให้ร่าเริง เต็มไปด้วยพลัง ทำราวกับว่าคุณเป็นดาราดัง คุณเดินเฉิดฉายเข้างานอย่างสง่าให้เหมือนกับว่าคุณเพิ่งลงจากเครื่องบินคองคอร์ดจากปารีส คุณมาเที่ยวเพียงแค่คืนเดียว และหากชายหนุ่มฮอตหล่อล่ำไม่ฉวยจับตัวคุณไว้ในคืนนี้แล้วล่ะก็ เขาเองนั่นแหล่ะที่ต้องเสียใจ!

คุณถือเครื่องดื่ม อาจเป็นน้ำแร่เปอร์ริเย่ แม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกกระหาย แต่มันช่วยให้คุณมือไม่ว่าง จะได้ไม่เผลอกัดเล็บหรือม้วนผมเล่นด้วยความกระวนกระวาย คุณไม่แสดงว่าคุณประหม่าถึงแม้ว่าคุณจะรู้สึกเช่นนั้นก็ตาม เคล็ดลับก็คือคุณต้องทำราวกับว่าทุกสิ่งไปได้สวย ถึงคุณจะกำลังอกสั่นขวัญแขวนเพราะใกล้สอบตกหรือเพิ่งโดนไล่ออกจากงาน คุณยังคงเดินเฉิดฉายอย่างมั่นใจเหมือนรู้ตัวเสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ แม้คุณจะแค่กำลังเดินรอบห้องเท่านั้น คุณเดินไปรอบๆ คุณไม่หยุดยืนอยู่มุมห้องเพื่อรอให้ใครเดินเข้ามาหา พวกเขาจะต้องพยายามจับตัวคุณไว้ให้ได้เอง

ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่สวย ถ้าคุณคิดว่าสาวอื่นแต่งตัวสวยกว่า ผอมกว่าหรือ เก๋กว่า คุณต้องเก็บมันไว้ในใจ บอกตัวเองว่า “ผู้ชายคนไหนได้เราไปช่างโชคดี” จนมันซึมเข้าในใจลึกๆ จนคุณเชื่อตามนั้น ถ้ามีผู้ชายเข้ามาหาคุณ ยิ้มไว้และตอบคำถามเขาด้วยความน่ารักโดยพูดแต่เพียงน้อย ดูสงบเสงี่ยมแต่แฝงด้วยเสน่ห์น่าค้นหา ทิ้งให้เขากระหายใคร่รู้จักตัวคุณมากขึ้น ดีกว่าไปทำให้เขารู้สึกเบื่อ คุยกับเขาเพียงสองสามนาทีแล้วให้บอกเขาว่า “ฉันอยากจะเดินรอบๆสักนิดนะคะ”

ผู้หญิงส่วนใหญ่จะยืนรอให้ผู้ชายมาขอเต้นรำทั้งคืน แต่คุณทำตาม กฎเหล็ก ถ้าเขาอยากใช้เวลากับคุณหรืออยากได้เบอร์โทรศัพท์คุณ เขาควรต้องเดินหาคุณในห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนเอง อย่ายื่นปากกาหรือนามบัตรให้เขา อย่าช่วยเขาทำให้เป็นเรื่องง่าย อย่าแม้แต่จะพกปากกาติดตัว เพราะคุณอาจจะอยาก “ช่วยเขา” เหตุผลตรงนี้ก็คือเขาต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ถ้าเขาต้องวุ่นวายไปขอยืมปากกาจากพนักงานสาว คุณก็เพียงแต่ยืนรอเงียบๆ ขณะคิดกับตัวเองว่า “กฎเหล็ก ได้เริ่มขึ้นแล้ว!”

มันเป็นเรื่องง่ายๆ คุณแค่ปฏิบัติตาม กฎเหล็ก และเชื่อว่าวันหนึ่งเจ้าชายของคุณจะมองเห็นว่าคุณแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เขารู้จัก และขอคุณแต่งงาน!

 

กฏเหล็ก 
อย่าคุยกับผู้ชายก่อน (และอย่าขอผู้ชายเต้นรำ)

อย่าหรือแม้แต่จะพูดว่า “ไปหากาแฟดื่มกันไหมคะ” หรือ “คุณมาร้านนี้บ่อยเหรอคะ” ถูกต้อง อย่าแม้แต่จะเปิดบทสนทนาด้วยประโยคธรรมดาๆเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาสนใจคุณก่อน เขาสะดุดตาคุณ เขาอยากได้คุณ หรือเขาแค่เพียงแต่มีมารยาทเท่านั้น

เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไร รู้ว่าคุณคิดว่า กฎเหล็ก ข้อนี้ฟังดูหยิ่ง ติงต๊อง และยาก แต่เมื่อคิดตามเนื้อหาของ
กฎเหล็ก แล้วก็เป็นเรื่องสมเหตุผล เพราะในที่สุดหัวใจหลักของ กฎเหล็ก ก็คือฝ่ายหญิงไม่ควรจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เราเชื่อในกฎธรรมชาติที่ว่า – ผู้ชายจะต้องเป็นฝ่ายจีบผู้หญิง

หากเราพูดกับผู้ชายก่อน เรากำลังแทรกแซงสถานการณ์ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งบางทีอาจนำไปสู่บทสนทนาหรือการเดทที่ไม่ควรจะเกิด ซึ่งการที่คุณเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนี้จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการทั้งหมด ในที่สุด วันหนึ่ง หนุ่มคนนั้นก็จะหันไปจีบสาวที่เขาชอบจริงๆ แล้วก็ทิ้งคุณไป

คุณอาจจะพยายามหาข้ออ้างขึ้นมาว่า “ก็เขาขี้อาย” หรือ “ฉันก็แค่ทำตัวเป็นมิตร” ผู้ชายขี้อายจริงหรือ เราจะให้คำตอบต่อคำถามนี้ บางที พวกจิตแพทย์อาจบอกคุณว่าผู้ชายอาย แต่เราเชื่อว่าผู้ชายส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่คนขี้อาย แค่เพียงแต่เขาไม่สนใจคุณจริง จริง เท่านั้น เขาเลยไม่เข้ามาทำความรู้จัก เรารู้ว่าเป็นการยากในการยอมรับความจริงข้อนี้ แล้วก็ยากอีกนั่นแหล่ะที่จะต้องเอาแต่เฝ้ารอคนที่ใช่ – คนที่เข้ามาทักคุณก่อน โทรหาคุณ และออกแรงทำทุกอย่างตั้งแต่การเริ่มต้นความสัมพันธ์ เพราะว่าเขาต้องการได้คุณมาครอบครอง

เป็นเรื่องง่ายที่จะอธิบายการรุกก่อนของผู้หญิงยุคนี้ เมื่อก่อนผู้หญิงเจอกับผู้ชายได้ที่งานเต้นรำและการ “ออกงาน” ปาร์ตี้ พวกเธอเพียงแต่รอให้ผู้ชายคนใดคนหนี่งในฝูงชนเข้ามาคุยด้วย แต่ทุกวันนี้ผู้หญิงหลายคนเป็นนักบัญชี แพทย์ ทนายความ ทันตแพทย์ หรืออยู่ในระดับผู้บริหาร ผู้หญิงทำงานร่วมกับผู้ชาย ทำงานให้กับผู้ชาย และผู้ชายก็ทำงานให้กับผู้หญิง ผู้ชายเป็นคนไข้และเป็นลูกค้าของผู้หญิง แล้วผู้หญิงจะไม่พูดกับผู้ชายก่อนได้ยังไงล่ะ

คำตอบของ กฎเหล็ก ก็คือคุณต้องปฏิบัติกับผู้ชายที่คุณสนใจเหมือนกับเขาเป็นลูกค้า หรือคนไข้ หรือเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ อาจเป็นการยากสักนิด แต่หากยอมรับกันตรงๆ เมื่อใดที่ผู้หญิงเจอผู้ชายที่ถูกใจ เธอจะเสมือนมีไฟดวงโตจุดประกายส่องสว่างอยู่เหนือหัว เธอรู้สึกสบายอกสบายใจ หัวเราะ และใช้เวลากับพวกเขานานเกินความจำเป็นโดยไม่ทันรู้สึกตัว เธออาจหยอดชวนเขาทานมื้อเที่ยงเพื่อพูดคุยบางเรื่องที่คุยผ่านทางโทรศัพท์ก็ได้ เพียงเพราะหวังว่านั่นอาจเป็นชนวนสานสัมพันธ์หวานชื่นต่อไป นับเป็นกลวิธีดาษดื่นที่ผู้หญิงฉลาดบางคนพยายามทำผ่านข้ออ้างเรื่องงาน พวกเธอคิดว่าเธอมีการศึกษาและมีความสามารถสูงเกินกว่าจะนั่งรอ เล่นเกมส์ หรือทำตาม กฎเหล็ก เธอนึกว่าปริญญาและเงินเดือนสูงลิบให้สิทธิ์เธอทำได้มากกว่านั่งรอเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เรารับรองได้ว่าผู้หญิงพวกนี้มักหัวใจสลาย เมื่อการรุกของพวกเธอถูกบอกปัด ที่เป็นเช่นนั้นเพราะพวกผู้ชายรู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่จำเป็นที่ใครจะต้องมาชวนพวกเขา ทานมื้อเที่ยง

สรุปสั้นๆ ได้ใจความในเรื่องนี้ก็คือ ถึงแม้ว่าคุณจะเจอผู้ชายจากการทำงาน คุณก็ยังคงต้องทำตาม กฎเหล็ก คุณต้องรอให้เขาเป็นฝ่ายชวนทานมื้อเที่ยงหรือชวนทำอะไรก็ตาม นอกเหนือจากเรื่องงานด้วยตนเอง เหมือนกับเรื่อง กฎเหล็ก 17 ปล่อยให้ผู้ชายเป็นผู้เริ่มต้น แม้ว่าคุณจะมีรายได้เท่ากับผู้ชายที่คุณสนใจ เขาก็ยังต้องเป็นฝ่ายชวนคุณทานมื้อเที่ยงอยู่ดี หากคุณไม่ยอมรับว่าผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกันในเรื่องการดำเนินความสัมพันธ์ หากคุณคิดว่าชายหญิงทัดเทียมกันได้ในเรื่องงาน แล้วทำไมคุณจะทำตัวเหมือนผู้ชาย – พูดกับพวกเขาก่อน ขอเบอร์โทรศัพท์ ชวนเขาทานข้าวเย็นที่บ้านเพื่อคุยเรื่องงานไม่ได้ – คำตอบคือ ไม่ควร เพราะนั่นจะเป็นการผลักไสเขาให้ออกห่าง การเป็นฝ่ายรุกก่อนมีความเสี่ยง บางครั้งเราเห็นมันได้ผล แต่ส่วนใหญ่แล้วมักไม่ค่อยได้ผล ส่วนใหญ่พวกผู้หญิงมัก อกหักเสมอ การไม่ยอมรับความคิดที่ว่าผู้ชายต้องเป็นฝ่ายจีบผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงตกที่นั่งหมิ่นเหม่ต่อการถูกปฏิเสธหรือถูกเมิน ถึงไม่ใช่ตอนนี้ก็อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เราหวังว่าคุณคงไม่ต้องทนกับความทรมานเหมือนเรื่องต่อไปนี้:

แพมเพื่อนทันตแพทย์ของเราเริ่มความสัมพันธ์กับโรเบิร์ตขณะที่ทั้งสองเรียนทันตแพทย์ด้วยกันเมื่อหลายปีก่อน เธอเป็นฝ่ายชวนเขาทานมื้อเที่ยง เป็นฝ่ายพูดกับเขาก่อน แม้ว่าต่อมาทั้งสองจะกลายเป็นคู่รักและอยู่บ้านเดียวกัน เขาไม่เคยแสดงว่า “ตกหลุมรัก” เธออย่างแท้จริง เธอจึงไม่รู้สึกมั่นคงในความสัมพันธ์นี้ตลอดเวลา เพราะอะไรน่ะหรือ นั่นก็เพราะเธอเป็นฝ่ายพูดกับเขาก่อน ไม่นานมานี้ เขาบอกเลิกเธอด้วยสาเหตุจากเรื่องเพียงเล็กน้อย ความจริงก็คือเขาไม่เคยรักเธอ ถ้าแพมทำตาม กฎเหล็ก เธอจะไม่พูดกับโรเบิร์ตก่อนหรือเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน ถ้าแพมทำตาม กฎเหล็กเธออาจมีโอกาสเจอกับคนอื่นที่ต้องการเธออย่างแท้จริง เธอคงไม่ต้องเสียเวลา หญิง กฎเหล็ก ย่อมไม่เสียเวลา

อีกตัวอย่างหนึ่งของหญิงเก่งที่แหก กฎเหล็ก คือ คลอเดีย นายหน้าค้าหุ้นผู้แสนมั่นใจแห่งวอลล์สตรีท เธอเจอสามีในอนาคตขณะเต้นรำอยู่ในดิสโก้ชื่อดัง เธอพาตัวเองไปยืนอยู่ข้างเขานานถึงห้านาทีเต็ม เมื่อเขานิ่งไม่เริ่มก่อน เธอบอกตัวเองว่าเขาอาจอายหรือมีเหตุผลบางอย่าง เธอจึงขอเต้นรำกับเขาเอง ความสัมพันธ์ของทั้งสองเต็มไปด้วยปัญหา เธอบ่นเสมอว่าเขา “ขี้อาย” กับเรื่องบนเตียงเหมือนกับที่เขาขี้อายในคืนแรกที่พบกัน

เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเต้นรำ ปัจจุบันกลายเป็นความนิยมที่ผู้หญิงจะขอผู้ชายเต้นรำ แน่นอนว่ามันเป็นอย่างที่คุณสงสัย การกระทำนี้เป็น การแหก กฎเหล็ก โดยสิ้นเชิง ถ้าผู้ชายไม่ได้พยายามที่จะเดินข้ามห้องมาขอคุณเต้นรำ แน่นอนว่าเป็นเพราะเขาไม่สนใจ แล้วการที่คุณขอเขาเต้นรำเสียเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกนี้ หรือเปลี่ยนให้เขารู้สึกกระตือรือร้นสนใจคุณได้ เขาอาจรู้สึกภูมิใจที่คุณเป็นฝ่ายชวน และเขาก็
เต้นรำกับคุณเพียงเพื่อรักษามารยาท บางทีเขาอาจอยากสานสัมพันธ์บนเตียงกับคุณในคืนนั้น แต่เขาไม่ได้คลั่งไคล้คุณ เพราะเขาไม่ได้สนใจคุณหรือเป็นเพราะคุณทอดสะพานเกินไป เขาเลยไม่ได้ตามจีบคุณและความจริงนี้จะเป็นยาดำในความสัมพันธ์ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น
ฝ่ายขอคุณเดท

เรารู้ว่าคุณคิดอะไร แล้วฉันควรจะทำอย่างไรถ้าไม่มีใครมาขอฉันเต้นรำเลยล่ะ โชคร้ายหน่อยนะที่คำตอบคือ การเดินไปเข้าห้องน้ำห้าครั้งหากมันต้องเป็นแบบนั้น ไปเติมลิปสติก ตบแป้งบนจมูกเพิ่ม สั่งเครื่องดื่มอีกแก้ว ทำใจให้มีความสุข เดินไปรอบๆห้องจนกว่าจะมีคนสนใจคุณ โทรหาเพื่อนที่แต่งงานแล้วจากล็อบบี้เพื่อขอกำลังใจ – สรุปก็คือ ทำอะไรก็ได้ยกเว้นขอผู้ชายเต้นรำก่อน การเต้นรำไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องสนุกสำหรับเรา ใช่ มันอาจเป็นเรื่องสนุกสำหรับผู้หญิงอื่นๆที่อยากออกเที่ยวเพื่อหาความสนุก แต่คุณกำลังมองหารักแท้และการแต่งงาน ดังนั้นคุณจึงไม่ควรทำตามใจตัวเองทุกอย่าง คุณต้องทำตาม กฎเหล็ก นั่นหมายความว่าแม้คุณจะเบื่อหรือเหงา คุณก็ไม่ขอผู้ชายเต้นรำก่อน อย่าแม้แต่จะไปยืนข้างผู้ชายที่คุณชอบเหมือนที่ผู้หญิงคนอื่นๆทำ ด้วยความหวังว่าเขาอาจขอคุณเต้นรำ คุณต้องรอให้เขาสังเกตเห็นคุณเอง คุณอาจต้องกลับบ้านโดยไม่เจอคนที่คุณชอบหรือไม่ได้เต้นรำแม้แต่เพลงเดียว แต่จำไว้เสมอว่าอย่างน้อยคุณก็ได้ปฏิบัติตาม กฎเหล็ก เพราะคุณจะเต้นรำเมื่อไหร่ก็ได้ คุณเดินออกมาด้วยความรู้สึกว่าอย่างน้อยคุณก็ประสบความสำเร็จที่ไม่แหก กฎเหล็ก!

หากนี่ฟังดูน่าเบื่อหน่าย จงจำไว้ว่าอีกทางหนึ่งแย่ยิ่งกว่า เพื่อนของเราคนนึง แซลลี่ขัดเคืองใจที่เธอได้แต่เต้นรำกับพวก “ขี้แพ้” ในงานปาร์ตี้งานหนึ่ง จนสุดท้ายแซลลี่ตัดสินใจแหก กฎเหล็ก ที่เธอจำได้ขี้นใจ เธอไปขอผู้ชายที่หล่อที่สุดในงานเต้นรำ เขารู้สึกปลื้มและเต้นรำกับเธอนานหลายชั่วโมง และเขาได้ขอแซลลี่ออกเที่ยวอีกสามคืนติดต่อกัน “บางทีนี่อาจเป็นข้อยกเว้นของ กฎเหล็ก” เธอคิดด้วยความกระหยิ่มใจ 
แต่ต่อมาเธอก็พบความจริงว่าคนที่ใช่ของเธอนั้นมาเมืองนี้เพื่อทำธุรกิจเพียงสองสามวัน เขามีแฟนสาวอยู่แล้วในอีกฟากหนึ่งของประเทศ ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมเขาถึงไม่ขอใครเต้นรำเลยในคืนนั้น เขาแค่แวะไปที่งานปาร์ตี้เพื่อความสนุก ไม่ได้ไปเพื่อมองหาภรรยาในอนาคต

สัจธรรมของเรื่องนี้ก็คือ: อย่าได้พยายามค้นหาว่าทำไมไม่มีใครสักคนขอคุณเต้นรำ – ทุกสิ่งย่อมมีเหตุผลเสมอ

มันน่าเศร้าว่าเวลาที่พวกผู้หญิงออกเที่ยว พวกเธอมักคิดว่าเพื่อไปเจอกับใคร “คนที่ใช่” มากกว่าที่จะมองว่าเป็นการเปิดโอกาสพบปะสังสรรค์กับเพศตรงข้าม พวกเธอมักกระตือรือร้นและกังวลเพราะอยากทำให้ดีที่สุด แล้วสุดท้ายพวกเธอก็พูดกับผู้ชายและขอพวกผู้ชายเต้นรำก่อน ดังนั้นคุณต้องบอกตัวเองให้รับสภาพว่าคุณจะไม่หวังผลอะไรจากการเต้นรำนั้น จงคิดแต่เพียงว่านี่เป็นโอกาสได้ใส่ส้นสูง ปัดแก้มด้วยบรัชออนสีใหม่ แล้วก็ไปปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงชน มีโอกาสว่าเพศตรงข้ามบางคนอาจเข้ามาคุยกับคุณก่อนในคืนนั้น แล้วถ้าเมื่อไหร่ที่มีคนเข้ามาแล้วบังเอิญคุณไม่ได้อยู่ในอารมณ์สนุก จงอย่าแสดงออกให้เขารู้ อย่าอวดฉลาดหรือพูดจาเสียดสีทำนองว่า “คงสนุกกว่าถ้าอยู่บ้านแล้วนั่งดูซิทคอม” ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่มองโลกในแง่ลบ ถ้ามีใครถามคุณว่าสนุกหรือเปล่า แค่ตอบรับและและยิ้มเท่านั้นก็พอ

ถ้าคุณคิดว่าสิ่งเหล่านี้ยากเกินไปที่จะทำ ก็จงอย่าออกไปเที่ยว อยู่บ้าน ออกกำลังกาย นั่งดูซิทคอม และทบทวน กฎเหล็ก อีกครั้ง จะดีกว่าหากคุณอยู่บ้าน แทนที่จะออกเที่ยวแล้วแหก กฎเหล็ก

 

 

สามารถอ่านรายละเอียด ข้อมูลของบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ได้ตามหน้าต่อไปนี้ค่ะ
 
คู่รักหาคู่สำเร็จ
 
บริการจัดหาคู่ของบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
 
เกี่ยวกับเรา ความเป็นมา ของ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
 
การติดต่อ การเดินทางมายัง บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
 
คำถามเกี่ยวกับการหาคู่ บริการจัดหาคู่พรีเมี่ยม ของ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching

 

Top